ความเคลื่อนไหวทีมกำปั้นไทย ที่กำลังเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น หลังได้มีการประกบคู่นักชกไทยทั้ง 4 รุ่น โดยรุ่นฟลายเวต 51กก.หญิง "น้องเฟี้ยว" จุฑามาศ จิตรพงศ์ พบ รูเมซ่า บูอาลัม จากอัลจีเรีย ถ้าชนะจะเข้ารอบ2 รอพบกับผู้ชนะจากฟิลิปปินส์ และ เคนย่า ,รุ่นไลท์เวต 60กก.หญิง "น้องแต้ว" สุดาพร สีสอนดี พบ มาเรีย โฆเซ่ ปาลาซิออส เอสปิโนซ่า จากเอกวาดอร์ ถ้าชนะจะเข้ารอบไปเจอกับอินเดีย ,รุ่นเวลเตอร์เวต 69กก.หญิง "น้องครีม" ใบสน มณีก้อน กับ ซาดัท ดัลกาโตว่า จากรัสเซีย ถ้าชนะจะเข้ารอบไปเจอกับนักชกจีน และรุ่นเฟเธอร์เวต 52กก.ชาย "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พบ ปีเตอร์ เบอร์นาร์ด แม็กเกล จากสหราชอาณาจักร ถ้าชนะจะเข้าไปเจอกับผู้ชนะระหว่างอาร์เจนติน่า กับ เยอรมนี ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. นักชกทั้ง 4 คนยังซ้อมแบบเบาๆ เพื่อทบทวนเชิงภายในหมู่บ้านนักกีฬา หลังการฝึกซ้อม "บิ๊กชาย" นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการทีมและประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวย กล่าวว่า ได้เห็นสายการแข่งขันของทั้ง 4 รุ่นถือว่าน่าพอใจมากตัวเก๋าๆ เต็งๆ อยู่คนละสายกับนักชกไทยหมดเลย ถือว่าไม่ง่ายและไม่ยาก จะบอกว่าง่ายคงไม่ได้นักชกที่ผ่านมาถึงรอบสุดท้ายได้นับว่าพระกาฬทุกคน และประมาทไม่ได้ ส่วนอีกสายถือว่าเป็น “กรุ๊ปออฟเดท”เลยก็ว่าได้ แค่นี้ก็ทำให้เรามีลุ้นมากทีเดียว จากนี้ไปอยู่ที่นักมวยแต่ละคนแล้วว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบและก้าวไปถึงเป้าหมายได้ไกลแค่ไหน แต่ลึกๆ มั่นใจเรามีเหรียญแน่แต่จะเป็นเหรียญอะไรขอดูการชกรอบแรกของแต่ละคนอีกครั้ง ขณะที่ "โค้ชแซม" กามนิตย์ นารีรักษ์ เฮดโค้ช กล่าวว่า ผลการจับสลากประกบคู่ถือว่าน่าพอใจไม่หนักเท่าไหร่ แม้เราจะไม่ได้บายรอบแรกเลยสักรุ่นแต่ภาพรวมถือว่าออกมาดีทีเดียว เพราะตัวเต็งๆ ของแต่ละรุ่นอยู่คนละสายกับเราทั้ง 4 คนเลย เพียงแต่ตอนนี้ตนยังไม่อยากหวังให้ไกลมากขอทำการบ้านแบบรอบต่อรอบเพื่อไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเองและนักมวยน่าจะทำให้เราไปถึงฝั่งฝันได้มากกว่า แต่บอกเลยโอลิมปิกเกมส์หนนี้มีเซอร์ไพรซ์