วันที่ 23 ก.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นการทำงานร่วมกันในการตัดสินใจกำหนดแนวทางและมาตรการตามที่คณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่ได้เสนอเข้ามา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบที่ทุกกระทรวงต้องดำเนินตามมาตรการอย่างทั่วถึง
ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการใน 2 ส่วนพร้อมๆกัน คือทั้งการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมีการติดตามผลการดำเนินงานโครงการภูเก็ตโมเดล และสมุยพลัสโมเดล ซึ่งเป็นการเดินหน้าตามเป้าหมาย 120 วันของรัฐบาลในการเปิดประเทศ ภายใต้ความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะมีการขยายโครงการในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเร่งแก้ไขปัญหาการติดเชื้อไวรัสในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ
นายกฯ ยังเสนอในที่ประชุม ศบศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาปรับปรุงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งโครงการ “คนละครึ่ง” โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” หรือพิจารณานำ “ช็อปดีมีคืน” กลับมาใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งยังอยากเห็นการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมาตรการของรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งการลงทะเบียนออนไลน์ รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือต่างๆ
ทั้งนี้ได้สั่งการในที่ประชุมครม. เร่งพิจารณาแผนงานของทุกกระทรวง ที่อยู่ภายใต้งบประมาณฯปี 2564 และ 2565 ที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย หากโครงการใดติดขัดเพราะสถานการณ์โควิด-19 สามารถชะลอได้ และพิจารณาการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 นายกฯ เสนอให้มีการจัดตั้งสถานพยาบาลขนาดเล็ก ให้กระจายไปในทุกพื้นที่ ทุกเขต เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน ลดการแพร่เชื้อในครอบครัวและชุมชน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหสเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ที่จำเป็นโดยมุ่งจำกัดพื้นที่การแพร่ระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้มเพื่อลดความสูญเสียรักษาระบบสาธารณสุข
นายกฯ ยังยืนยันแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านโดสในปีนี้ และขณะนี้ได้มีการอนุมัติการใช้ Antigen Test Kit ที่ได้รับการอนุญาตให้ประชาชนได้ใช้แล้วเพื่อเร่งตรวจหาเชื้อ การจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) รวมถึงสมุนไพรไทยเช่น ฟ้าทะลายโจร ให้กระจายไปทุกจังหวัดตามลำดับความรุนแรง
การปรับระดับเตียงเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วย รวมทั้งการจัดรถรับส่งผู้ป่วยให้เข้าถึงสถานพยาบาลในระดับต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลสนามและศูนย์คัดกรองแรกรับอย่างเร่งด่วนด้วยโดยให้เป็นความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานที่ต้องออกมาช่วยเหลือประชาชน และจะต้องไม่มีภาพประชาชนที่ถูกทอดทิ้ง