กรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี 54 บนแม่น้ำท่าจีน โดยประสานงานกับกรมโยธาธิการและกระทรวงมหาดไทย นำเครื่องจักรกำจัดผักตบชวาและเปิดทางน้ำ โดยวางเป้าอย่างเร็วกลาว เดือนพฤศจิกายน หรือไม่เกินกลางเดือนธันวาคมนี้ น้ำจะกลับสู่สภาวะปกติ ขณะน้ำเอ่อริมตลิ่งชาวบ้านบางเลน บอกทนมาน 2 เดือนจนเริ่มชินแล้ว วันนี้ 14 พ.ย. 60 ที่เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำท่าจีน หน้าวัดบางไผ่นารถ (ระยะที่ 3) ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม นายสากล ชลคีรี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล สำนักงานชลประทานที่ 11 กรมชลประทาน พร้อมด้วย นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอบางเลน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมยาธิการ ได้เข้าตรวจสอบการติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 8 ตัว เพื่อเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่รับมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี มายังจังหวัดนครปฐม ก่อนจะออกสู่ทางปากอ่าวที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยนายสากล เปิดเผยว่า ในการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำพลังไฟฟ้า ทั้ง 8 ตัวในบริเวณดังกล่าว เป็นหนึ่งในการสั่งการของ อธิบดีกรมชลประทาน ที่ให้มีการประสานงานกับกรมโยธาธิการ ที่ได้การเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีน ให้สะดวกขึ้น โดยให้มีการเร่งกำลังเครื่องระบายน้ำ วันละ 20 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาทีที่ยังท่วมขังในพื้นที่ทุ่งเจ้าเจ็ดและเสนา โดยตอนนี้แผนกาในการผลักดันน้ำเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้อย่างลงตัว โดยใช้การผันน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเคยให้แนวทางในการนำเรือมาผลักดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 54 นายสากล กล่าวอีกว่า ตอนนี้การระบายน้ำจากทุ่งผักไห่ และทุ่งเจ้าเจ็ด ลงสู่แม่น้ำท่าจีนโดยเมื่อวานนี้ แม่น้ำท่าจีน ได้มีการลดการระบายน้ำลง ซึ่งจะทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนนั้นลดลง และจะทำให้การระบายน้ำจากทั้ง 2 ทุ่งนั้นสามรถไหลเข้ามาในแม่น้ำท่าจีนได้อีก และได้มีการเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อเปิดให้เอาน้ำในทุ่งออกมาได้ต่อเนื่อง แต่อาจจะมีน้ำ ที่สูงขึ้นเนื่องจากอิทธิพลน้ำหนุนในวันที่ 19-21 พ.ย.นี้ อีกครั้ง โดยการเร่งระบายน้ำ กรมชลประทาน ได้มีการวางแผนไว้ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรีและสามพราน จำนวน 5 จุด รวม 53 ตัว ส่วนในอำเภอบางเลน อีก 28 ตัว โดยได้ทำงานตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นมา ซึ่งเน้นในช่วงน้ำลงในการช่วยเร่งให้น้ำลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้เป็นการเร่งการไหลของน้ำ เป็น 1.5 หรือ 2 เท่าของการไหลปกติ โดยคาดการณ์ไว้ น้ำจะสามารถลดลงในสภาวะปกติ อย่างเร็ว สิ้นเดือน พฤศจิกายน หรือ ไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาเปลี่ยนแปลงเช่น น้ำหนุนและฝนที่ตกลงมา ซึ่งปีนี้ปริมาณน้ำฝนนั้นมีเท่าปี 54แต่มีการจัดการในการทำระบบแก้มลิง ซึ่งตอนนี้น้ำที่จะท่วมขังคือใน 12 ทุ่งรับน้ำ และจะระบายออกมาเรื่อยและยืนยันว่าน้ำจะไม่ขึ้นสูงกว่านี้อีกแล้ว ด้าน นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอบางเลน กล่าวว่า ตอนนี้ได้มารับฟังและประสานงานกับกรมชลประทานและกรมโยธาธิการ ในการกำจัดผักตบชวาที่จะมากีดขวางการระบายน้ำ และสภาวะน้ำท่วมก็มีเอ่อล้นในช่วงริมแม่น้ำท่าจีน โดยตอนนี้ทางจังหวัดนครปฐม โดยผู้ว่าราชการได้ลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือแล้ว และมีการจัดกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ในการแจกจ่ายของที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ได้รับการยืนยันว่าน้ำท่าจีนจะลดลงอีกไม่นานก็จะได้ประสานให้ผู้นำชุมชนไปแจ้งชาวบ้านให้อุ่นใจขึ้น และทางอำเภอบางเลนก็จะมีการลงพื้นที่ในการรับฟังปัญหาจากชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาก็คือคนที่อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เนื่องจากจะเจอสภาวะน้ำเอ่อล้นตามริมแม่น้ำทั้งสาย ด้านชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ บอกว่า ประสบปัญหาน้ำท่วมมาได้ 1-2 เดือนแล้วซึ่งก็เป็นปกติที่น้ำที่ริมแม้น้ำท่าจีนจะเอ่อขึ้นมา ปีนี้ถือว่าเยอะหน่อยแต่ก็ไม่เท่ากับปี 54 ซึ่งบ้านเรือนก็ได้มีการปลูกกันพื้นที่ไว้แม้จะช่วยได้ไม่มากแต่ก็ยังถือว่าทราบข่าวว่าอีกไม่นานก็จะมีการระบายน้ำออกจากทุ่งซึ่งใครอยู่ที่ริมน้ำก็จะเข้าใจวิถีชีวิต และพยายามปรับตัวให้ได้แม้จะทนมานานกว่า 2 เดือนแล้ว