ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์,ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จัด Gift of Life 2018 ด้วยงบ 400 ล้านบาท รับกำลังซื้อปลายปี หวังเงินสะพัด 11,000 ล้านบาท ชี้ช็อปช่วยชาติดีเกินคาด 2 วันมีกำกับภาษีรวม 43,200 ใบ นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าแผนการรับกำลังซื้อในช่วงเทศกาลปีใหม่ของ 3 ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ปในปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 400 ล้านบาท จัดแคมเปญ Gift of Life 2018 ให้ตอบโจทย์การทำการตลาดในยุครีเทล 4.0 และตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตอลที่เปลี่ยนไป พร้อมนำกลยุทธ์Customer Centric ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางครีเอทรายละเอียดการสื่อสารด้านอารมณ์ และประสบการณ์เชิงบวกของแคมเปญปีใหม่ให้มีความแตกต่างตามคาแรคเตอร์ของ 3 ห้างฯแต่มีความเหมือนของฟังก์ชั่นนอลในการลดราคาสินค้า ควบคู่กับวิธีการนำเสนอให้เหมาะกับยุคดิจิตอลไลฟ์สไตล์ พร้อมจัดทำภาพยนต์สั้น 3 เรื่อง 3 ธีม 3 ห้างฯ เผยแพร่ผ่านเว็ปไซด์สร้างอารมณ์แห่งความสุข และการให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยปีนี้เริ่มจัดตั้งแต่วันนี้– 7 ม.ค.2561 ที่ เดอะมอลล์ ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ สำหรับห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล มแนวคิดการจัดงานปีใหม่ “The Mall Gift is You” การมอบของขวัญพิเศษ ผ่านประสบการณ์ร่วมที่สื่อผ่านตัวตน ของทั้งผู้ให้และผู้รับ เป็นโอกาสพิเศษในการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ให้กับชีวิตในทุกๆเรื่อง สื่อสารผ่านหนังสั้น Gift is You ซึ่งเผยแพร่ใน Facebook ; themallthailand พร้อมจัดกิจกรรม “WRAPPING STUDIO” การเลือกออกแบบของขวัญเองได้ตามต้องการ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น พร้อมนำเสนอกระดาษห่อของขวัญลวดลายน่ารัก ๆ พร้อมความหมายดี ๆ ให้เลือกมากถึง 10 ลาย โดยสมาชิกบัตร M Card สามารถร่วมกิจกรรมเพียงช้อปครบ 3,000 บาท ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ หรือช้อปครบ 1,000 บาท ที่ เดอะมอลล์ โคราช ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2560 – 7 ม.ค. 2561 รวมถึงมีโปรโมชั่นพิเศษมากมายมอบความคุ้มค่า และสร้างอารมณ์การจับจ่ายให้กับลูกค้า ส่วนพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จะมีแนวคิด PARAGON ONLY จึงจัดปีใหม่ขึ้นในธีม Paragon Gift of Bangkok นำทุกไลฟ์สไตล์ กิน เที่ยว ช้อป ชิลล์ ดูแลสุขภาพ ,ความเชื่อในเรื่องของโชคลาภ และการเสริมสร้างดวงชะตา ฯลฯ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ที่ฮอตฮิต มาสื่อสารให้สอดคล้องกับของขวัญปีใหม่ที่คัดสรรมานำเสนอเป็นพิเศษในเทศกาลปีใหม่นี้ พร้อมรวบรวมของขวัญ 100 ชิ้นพิเศษ คัดสรรโดยกูรูแฟชั่น และสไตลิสต์ชื่อดั ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วิถีคนกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้จัดพื้นที่พิเศษกว่า 100 ตารางเมตร ที่บริเวณ ชั้นM (ติดกับแผนกShoes& Bags) ให้เป็นสตูดิโอสำหรับห่อของขวัญแบบครบวงจร รวมถึงบริการ Customized Photo Gift Tag ที่สามารถถ่ายรูปคนให้ของขวัญ แนบไปพร้อมกับคำอวยพร ที่จะทำให้คนรับประทับใจ หลังจากที่ได้รับของขวัญชิ้นพิเศษตั้งแต่วันนี้ - 7 ม.ค. 2561 เฉพาะที่ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์ ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม มาในคอนเซ็ปต์ Emporium Relations Gift เน้นการสร้างประสบการณ์ร่วมที่สื่อผ่านความสัมพันธ์ ความผูกพัน และ ชีวิต โดยมองว่า Every little moment is the gift of life ของขวัญเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ของทุกๆคน โดยสื่อสารผ่านหนังสั้น “Girlhattan” (เกิร์ลฮัตตั้น) กำกับภาพยนต์โดย บาส ณัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับภาพยนต์ ฉลาดเกมส์โกง ซึ่งเป็นครั้งแรกของทำภาพยนต์เพื่อการตลาดของห้างสรรพสินค้า สามารถชมภาพยนต์ดังกล่าวได้ผ่าน Facebook ; emporiumdepartmentstore ซึ่งปัจจุบันมีเข้าชมแล้วกว่า 2 ล้านวิว นอกจากปีนี้ยังได้ จัด Black Friday ครั้งแรกในประเทศไทยที่ ดิ เอ็มโพเรียม ในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย. นี้ โดยนำสินค้าในเอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์จะลดราคาอย่างไม่เคยมีมาก่อน ลดสูงสุด ร้อยละ50 โดยเปิดให้ ช้อปเพียง 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 18.00 น.-21.00 น. รวมถึงความพิเศษจาก บัตรเครดิตต่างๆ อาทิบัตรเครดิต ซิตี้ เอ็ม วีซ่า ยังลดเพิ่มร้อยละ 20 เมื่อช้อปในห้างฯ และบัตรเครดิตกสิกรไทย ที่เมื่อช้อปทั้งห้างฯและศูนย์ฯ รับคืนสูงสุด 5,000 บาท เป็นต้น ด้านกูร์เมต์มาร์เก็ต มีแคมเปญ “Gourmet Market & Home Fresh Mart Blissful Hamper 2018” ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “The Happiness Factory- แคมเปญส่งมอบความสุข”เน้นการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ตั้งแต่กระเช้ามาตรฐาน ไปจนถึงกระเช้าพรีเมี่ยม และกระเช้าลักซ์ชัวร์รี่โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,060 - 15,000 บาท โดยกระเช้ากลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ระหว่างราคา 1,000 - 4,000 บาท ซึ่งลูกค้าจะเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป, หน่วยงาน ห้างร้าน และองค์กร สำหรับกระเช้าระดับราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป หรือกระเช้ากลุ่มพรีเมี่ยม ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีปริมาณการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทุกปี และเพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ รับคืนรวมสูงสุดร้อยละ 37 และยังได้ผนึกกำลังพันธมิตร7 สถาบันการเงินชั้นนำ มอบสิทธิประโยชน์พิเศษผ่อนชำระดอกเบี้ยร้อยละ 0 นานสูงสุด 6 เดือน และเพิ่มความหลากหลายในการเลือกรับสิทธิประโยชน์จากพันธมิตรสถาบันการเงินต่างๆ ด้านการจัดโปรโมชั่นพิเศษของทั้งกลุ่มเดอะมอลล์ ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ถึง 7 ม.ค.2561 สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายในห้างฯ และศูนย์การค้าเดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ครบ 2,000 บาท สามารถร่วมลุ้นรางวัลล่องเรือสำราญ Symphony of The Seas พร้อมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ บาเซโลน่า ประเทศสเปน 8 วัน 7 คืน รวมมูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท อีกทั้งยังมีแคมเเปญลดแลกแจกแถมให้กับลูกค้า เมื่อช้อปในห้างฯ ตั้งแต่ 1,500 -15,000 บาท หรือ นำคะแนนจาก M Card 100-12,00 คะแนน สามารถแลกรับคูปองส่วนลด 10-50% และ เสาร์-อาทิตย์ที่ 23-24 และ 30-31 ธ.ค. ช้อปครบ 5,000 บาท รับ The Privilege Point Card เพื่อรับคะแนน M Point 18 เท่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังจบแคมเปญปีใหม่จะสามารถสร้างยอดขายได้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมของเดอะมอลล์กรุ๊ป สิ้นปี 2560 ได้ถึง 56,000 ล้านบาท เติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4 ยังคงเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนแรกของปีมียอดขายรวมแล้วกว่า 45,000 ล้านบาท นายชำนาญกล่าวว่า สำหรับ ช็อปช่วยชาติที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 11พ.ย.-3 ธ.ค. 2560 ถือว่าเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นการใช้จ่ายเร็วขึ้น โดยภาพรวมของเดอะมอลล์ กรุ๊ป 2 วันแรกของแคมเปญช็อปช่วยชาติ มีจำนวนใบกำกับภาษีรวมที่ 43,200 ใบ เฉลี่ย 21,600 ใบต่อวัน เทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาซึ่งยังไม่ใช่ช่วงการจัดช็อปช่วยชาติ มีจำนวนใบกำกับภาษีเพียง 5,900 ใบ หรือมีการเติบโตสูงถึงร้อยละ 630 แต่ในช่วงที่มีการจัดช็อปช่วยชาติเดือนธ.ค.ปี2559 (14-31ธ.ค.2559) ประมาณ 18 วัน มีจำนวนใบกำกับภาษีรวม 420,000 ใบ เฉลี่ยวันที่ 23,000 ใบต่อวัน