นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศกรมเจ้าท่าที่ 156/2564 เรื่อง การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และได้มีการขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป ปัจจุบันปรากฏว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังมีอัตราการเพิ่มของจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอาการโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาคหลายจังหวัด ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มต่อเนื่อง ต่อมาได้มีการออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ 10/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง เพื่อรองรับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการและการบังคับใช้อย่างจริงจังเพิ่มเติมขึ้นจากข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศ กำหนดแนวปฏิบัติให้เจ้าของเรือหรือผู้ครอบครองเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือ ผู้ประกอบการท่าเรือ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ และผู้โดยสาร เพื่อปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม ดังนี้ 1. ประกาศของกรมเจ้าท่าฉบับใดที่เกี่ยวกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ขัดหรือแย้งกับประกาศฉบับนี้ให้ใช้ประกาศนี้บังคับ และ2. ยกเลิกข้อ 2 (1) ประกาศกรมเจ้าท่าที่ 75/2564 เรื่อง การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 18 เมษายน 2564 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ 3 ของประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 146/2564 เรื่อง การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ให้ปรับลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา รวม 13 จังหวัด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้เรือตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย จัดให้มีการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด และจัดให้มีการบริการอย่างเพียงพอตามความจำเป็นและเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวกในการขนส่งประชาชนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนและการบริการทางการแพทย์" นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเช้าและตอนเย็นซึ่งมีประชาชนเดินทางไปทำงานและกลับจากที่ทำงาน ให้พิจารณาเพิ่มจำนวนเที่ยวเรือตามความจำเป็นให้เหมาะสมกับสถานการณ์โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) และมาตรการจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนผู้โดยสาร” ประกาศนี้ จะมีผลบังคับเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือผู้ใช้บริการทางน้ำ ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อลดความเสี่ยง ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของกรมเจ้าท่าและดำเนินตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยยึดมาตรการหลัก D-M-H-T-T-A ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจะกลับสู่ภาวะปกติ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1199 เจ้าท่า ตลอด 24 ชั่วโมง