วันที่ 17 ก.ค.64 นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ช่วงสองโมงเช้าได้เชิญ นายสำรวย เกษกุล นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายนพ พงษ์พลาดิศัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ น พ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นพ .ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ จ่าจังหวัดศรีสะเกษ ป้องกันจังหวัดศรีสะเกษ ผู้อำนวยการกลุ่มงานดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และผู้เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมปรึกษาหารือ เพื่อติดตามการบริหารจัดการข้อมูล ต่างๆทุกด้าน วางโครงสร้างการทำงาน และการเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยเรื่องแรกเป็นการเตรียมการของศูนย์ประสานงานการรับข้อมูล EOC ประจำอำเภอ (Call Center เพราะหน่วยงานนี้ต้องติดต่อประสานข้อมูลต่างๆจากทุกๆจุด เพื่อการดำเนินการในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามประจำอำเภอ และให้แต่ละอำเภอดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยประจำอำเภอ เพื่อรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างถิ่นทั้งที่เป็นกลุ่มเสี่ยงน้อยเสี่ยงมาก เป็นการจัดบ้านใหญ่ 4 หลัง ของจังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 22 อำเภอ ให้ดำเนินการ ตามนโยบายคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ
บ้านหลังที่ 1. ศูนย์รับรองผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อรับผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่มีความเสี่ยง แยกกักจากครอบครัวและชุมชน บ้านหลังที่ 2. ศูนย์ดูแลโควิดชุมชน (ศูนย์พักคอย) ดูแลผู้ติดเชื้อโควิดชั่วคราว รอย้ายเข้า รพ.สนาม หรือ Cohort ward (12-24 ชั่วโมง) 3. โรงพยาบาลสนาม นอกโรงพยาบาลดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ (สีเขียว) โดยให้การดูแลเหมือนโรงพยาบาล แต่แยกออกจากพื้นที่โรงพยาบาลเพื่อให้มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ 4. Cohort ward (หอผู้ป่วยรวม) ในโรงพยาบาลชุมชน ดูแลผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย หรือมีโรคประจำตัว (สีเหลือง) เพื่อให้การรักษาเฉพาะที่ มีความพร้อม ส่งต่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลศรีสะเกษหากมีอาการเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนท้ายสุดที่ได้ปรึกษาหารือคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารต้องมีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง ชัดเจน และทั่วถึง เพราะขณะนี้ประชาชนติดตามข่าวสารทุกวันทางสื่อต่างๆจึงควรมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำเผยแพร่ทำความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกเกินไปและให้ทุกคนให้ความร่วมมือให้ข้อมูลที่แท้จริงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะหยุดยั้งไม่ให้มีการแพร่เชื้อออกไปโดยไม่ตั้งใจ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเพื่อบริหารจัดการโควิด-19ให้ลดลงโดยเร็วที่สุด
บ้านหลังที่ 1. ศูนย์รับรองผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อรับผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่มีความเสี่ยง แยกกักจากครอบครัวและชุมชน บ้านหลังที่ 2. ศูนย์ดูแลโควิดชุมชน (ศูนย์พักคอย) ดูแลผู้ติดเชื้อโควิดชั่วคราว รอย้ายเข้า รพ.สนาม หรือ Cohort ward (12-24 ชั่วโมง) 3. โรงพยาบาลสนาม นอกโรงพยาบาลดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ (สีเขียว) โดยให้การดูแลเหมือนโรงพยาบาล แต่แยกออกจากพื้นที่โรงพยาบาลเพื่อให้มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ 4. Cohort ward (หอผู้ป่วยรวม) ในโรงพยาบาลชุมชน ดูแลผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย หรือมีโรคประจำตัว (สีเหลือง) เพื่อให้การรักษาเฉพาะที่ มีความพร้อม ส่งต่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลศรีสะเกษหากมีอาการเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนท้ายสุดที่ได้ปรึกษาหารือคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารต้องมีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง ชัดเจน และทั่วถึง เพราะขณะนี้ประชาชนติดตามข่าวสารทุกวันทางสื่อต่างๆจึงควรมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำเผยแพร่ทำความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกเกินไปและให้ทุกคนให้ความร่วมมือให้ข้อมูลที่แท้จริงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะหยุดยั้งไม่ให้มีการแพร่เชื้อออกไปโดยไม่ตั้งใจ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเพื่อบริหารจัดการโควิด-19ให้ลดลงโดยเร็วที่สุด