วันที่ 17 ก.ค.64 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี รัฐบาลเตรียมล็อกดาวน์เข้มข้น หลังพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ว่า รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์มา 6 วัน เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ในที่สุดสิ่งที่ประชาชนหวาดกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้นแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มวันที่ 17 ก.ค.64 จำนวน 10,082 ราย เสียชีวิต 141 ราย นี่คือฝันร้ายที่กลายเป็นจริง ตายทะลุร้อย ติดทะลุหมื่น ไม่มั่นใจว่า ระหว่างปิดเมืองกับเปิดประเทศ อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน วิกฤตหนักขนาดอียูถอดไทยออกจากประเทศปลอดภัยจากโควิด บริษัทประกันภัยขอยกเลิกประกันภัยโควิด-19 แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะปลอบใจตัวเองว่าจะไม่ลาออก จะสู้จนกว่าชนะ ไม่แน่ใจว่าสู้กับอะไร ถ้าสู้กับโควิดรัฐบาลแพ้มาทุกระลอก แพ้ทุกสถานการณ์ แม้จะพร้อมสู้ ไม่ยอมแพ้ แต่ถ้าประชาชนเป็นกรรมการคงสั่งยุติการชกไปตั้งนานแล้ว เพราะ
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะแก้ไขปัญหาอะไรได้ ไม่แปลกที่จะเดินไปไหนก็มีแต่คนด่า รัฐบาลเขียนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีได้ แต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์โควิดจะวิกฤตหนักถึงเพียงนี้ แทนที่จะเร่งทำงานแข่งกับความเป็นความตายของประชาชน ลดขั้นตอนให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้มากขึ้น แยกคน แยกโรค เร่งจัดหาวัคซีนคุณภาพมาฉีดให้กับประชาชน แต่ก็ทำท่ากลายเป็นวัคซีนทิพย์ ที่ผ่านมาประกาศผิด ประกาศใหม่ เยียวยาผิด ยกเลิกคำสั่ง ล็อกดาวน์ไม่ได้ผล เตรียมยกระดับล็อกดาวน์ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้โอกาสไปเปลืองมากแล้ว ถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบ
“ตายทะลุร้อย ติดทะลุหมื่น เห็นท่าไม่ดี เตรียมยกระดับเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ ถ้าติด ถ้าตาย มากกว่านี้อีก ประเทศชาติและประชาชนไม่พร้อมที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยกระดับอะไรอีกแล้ว นอกจากยกระดับแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก” นายอนุสรณ์ กล่าว