เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในขณะนี้ระเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่จากข้อมูลปริมาณน้ำในเขื่อน-อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง พบว่ามีปริมาณน้ำน้อยกว่าเกณฑ์อยู่หลายแห่ง รวมถึงบริเวณพื้นที่การเกษตร เช่น เขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับทำการเกษตร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาฝนทิ้งช่วง ขณะเดียวกันในบางพื้นที่มีฝนตกหนัก ทำให้มีปริมาณน้ำเกินความต้องการของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะนำมาวางแผนเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือให้ตรงพื้นที่เป้าหมาย โดยจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำเพียงพอแล้ว
สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้พื้นที่ลุ่มรับน้ำ ซึ่งผลปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ มีการขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 11 หน่วยฯ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.พะเยา แม่ฮ่องสอน เชียงราย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ยโสธร ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ เพิ่มปริมาณน้ำฝนเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนจำนวน 7 แห่ง และ อ่างเก็บน้ำจำนวน 11 แห่ง และบึงบอระเพ็ด
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการติดตามสภาพอากาศของสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า บริเวณพื้นที่ภาคเหนือมีสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงของ 3 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ หน่วยฯ จ.เชียงใหม่ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พะเยา หน่วยฯ จ.ตาก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ตาก จ.สุโขทัย จ.ลำปาง จ.กำแพงเพชร พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่มอก และหน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เพชรบูรณ์ จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก ทั้งนี้ อีก 10 หน่วยปฏิบัติการฯ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากในช่วงบ่ายสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อไป
และพี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงได้ที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ อาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100