เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงฤดูฝน แต่ฝนที่ตกนั้นมีการกระจายตัวในหลายพื้นที่ส่งผลให้บางพื้นที่มีฝนตกในปริมาณที่น้อย โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลางและตอนใต้ของภาค ทำให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีที่ต้องการน้ำในปริมาณที่มากกว่าที่มีอยู่ขณะนี้ในการเพาะปลูก สำหรับแผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยา ปรากฏว่าวันนี้ไม่มีร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย แต่ยังมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลางพัดปกคลุมด้านทะเลอันดามัน ทะเลอ่าวไทย และภาคใต้ของไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่ทางตอนล่างของประเทศเวียดนาม จากอิทธิพลดังกล่าวอาจส่งผลให้มีฝนตกปานกลางถึงหนักโดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขา โดยการคาดการณ์ปริมาณฝนในวันนี้ภาคเหนือ อาจจะมีปริมาณฝนร้อยละ 40 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณฝนร้อยละ 70 ภาคกลางปริมาณฝนร้อยละ 60 ภาคตะวันออกปริมาณฝนโดยเฉพาะด้านรับลมร้อยละ 70 ภาคใต้ปฝั่งตะวันออกปริมาณฝนร้อยละ 10 และฝั่งตะวันออกร้อยละ 60 ของพื้นที่
ทั้งนี้ ยังได้แจ้งเตือนประชาชนในบริเวณจังหวัดชัยภูมิ กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ นครราชสีมา กาญจนบุรี อุทัยธานี ราชบรี และจังหวัดทางภาคตะวันออก ระวังอาจเกิดฝนตกหนักได้รวมถึงให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ส่วนผลการปฏิบัติการฝนหลวงที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก และกองทัพอากาศ ในเรื่องของกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.64) ได้ขึ้นบินปฏิบัติการ 11 หน่วย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ จ.เชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ สกลนคร กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนจำนวน 11 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 8 แห่ง
นายปนิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการติดตามสภาพอากาศในช่วงเช้าวันนี้ จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ภาคเหนือ และภาคกลาง เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน ๔ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหน่วยฯ จ.เชียงใหม่ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พะเยา แม่ฮ่องสอนหน่วยฯ จ.ตาก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ตาก หน่วยฯ จ.กาญจนบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรีหน่วยฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ลพบุรี
ทั้งนี้ อีก 9 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป และพี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100