นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม 2560 ว่า ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 76.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ทั้งนี้เป็นผลมาจาก นโยบายการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน,การส่งออกของไทยในเดือนกันยายน ที่มีมูลค่าสูงกว่า 21,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12.22 ,ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนีความเชื่อเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 64.1 โอกาสในการหางานทำอยู่ที่ระดับ 71.4 และรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 94.4 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ นายธนวรรธน์ ยังกล่าวถึงมาตรการ "ช้อปช่วยชาติ" ว่า ส่วนตัวมองว่าการกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้น จะช่วยเลื่อนการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้เร็วขึ้นจากปกติช่วงเดือนธันวาคม ที่เป็นช่วงของการจับจ่ายเดิมอยู่แล้ว เมื่อกำหนดมาตรการเร็วขึ้นก็จะทำให้เกิดเม็ดเงินใหม่เข้ามาในระบบ อย่างไรก็ตาม ความคึกคักในการจับจ่ายน่าจะเริ่มดีขึ้นแม้ประชาชนจะยังมีความระมัดระวัง โดยในเบื้องต้นคาดว่า จะมีเงินสะพัดประมาณ 15,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเม็ดเงินจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ก็จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในช่วงปลายปี ราว 20,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้น จีดีพี ให้เพิ่มขึ้นได้อีกร้อยละ 0.1