จากกรณีที่เมื่อวันที่ 4 พ.ย.60 เวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา ศูนย์สื่อสาร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวและเด็กหญิงถูกฆ่าตาย และ นำศพ จำนวน 2 ศพ มาทิ้งไว้ที่บริเวณใต้สะพานบ้านกาหนั๊วะ ม.5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยมีผ้าปกปิดศพไว้ ซึ่งต่อมาทราบชื่อในภายหลังคือ น.ส.บิสมี สุหลง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 ม.12 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นภรรยาของนายมะสุเปียน มามะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและมีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดีและได้ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเมื่อปี 2556 และ ด.ญ.นัสริน มามะ อายุ 5 ปี (บุตรของนาวสาวบิสมี) อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ ได้สืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้พร้อมกับติดตามพฤติกรรมการเดินทางของคนร้ายด้วยรถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้างยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ ทะเบียน 1 กก 4312 นราธิวาส ดำหลังจากก่อเหตุโดยที่ถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ ได้บูรณาการสนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง และทหารพราน ฉก.45 เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักพร้อมได้เชิญตัวนายฮาซัน เจ๊ะฮะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/6 ม.2 บ้านเจ๊ะเก ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ พร้อมยึดของกลางได้ในบ้านพัก ประกอบด้วย มีดพับสีขาวยาว 8 นิ้ว 1 เล่ม (มีคราบเลือดติดอยู่ที่ปลายมีด) หัวแก้ส เสื้อผ้าของผู้ตาย รองเท้าของผู้ตาย 1 คู่ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงสีเทาของผู้ตาย 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วง กระเป๋าเป้สีดำยี่ห้ออาดีด้าส โดยภายในมีเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าสตางค์ เอกสาร ของผู้ตาย ซึ่งนายฮาซัน เจ๊ะฮะ ได้นำของกลางไปทิ้งไว้ริมถนนห่างจากจุดพบศพ ประมาณ 2 กม.และของกลางอีกบางส่วนได้ยึดมาจากบ้านบิดาที่เป็นบ้านก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 53 ม.3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาสพร้อมนำตัวมาสอบสวนขยายผลยัง สภ.ระแงะ ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6.พ.ย.60. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ,พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.ภ.9 พร้อมคณะ ,พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เดินทางมาแถลงผลการปฏิบัติคดีอาชญากรรมที่น่าสนใจของประชาชน โดยมี นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอ.ระแงะ,พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ ,พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ทพ 45, พ.ต.ท.ปราโมทย์ สังข์ทอง รอง ผกก.ป.ฯ,พ.ต.ท.สมใจ สิงห์เกลี่ยง รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ ,พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส. พร้อมสื่อมวลชนและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตร่วมรับฟังผลการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า นายฮาซัน เจ๊ะฮะ ผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า นายอาซัน เจ๊ะฮะ ผู้ต้องหายอมรับว่ารู้จักกับนางสาวบิสมี ผู้ตาย ในระหว่างขณะที่กำลังขับรถ 3 ล้อพ่วงข้าง ไปตามถนนบ้านแกแม สายระแงะ – นราธิวาส และได้พบกับผู้ตายและลูก จึงเข้าทักทายพูดคุยกันแล้วได้พากันไปที่บ้านเลขที่ 53 ม.3 (ซีโป) ซึ่งเป็นบ้านของพ่อนายอาซันฯเนื่องจากผู้ตาย เป็นคนที่มีปัญหาทางบ้านมีพฤติกรรมค่ำไหนนอนนั่น แล้วทั้งสามคนได้พักหลับนอนอยู่ที่บ้านดังกล่าว พร้อมกับนำสาเสพติดมาเสพกันและต่อมาเมื่อเวลาประมาณ04.00 น.ของวันที่ 4.พ.ย.60 นายอาซันฯ เกิดมีอารมณ์ทางเพศและจะขอร่วมหลับนอนแต่ผู้ตายตาผู้ตายขัดขืน ทำให้นายอาซันฯโกรธจึงลงมือทำร้าย และใช้อาวุธมีดแทงบริเวณลำคอ น.ส.บิสมีฯและแทงซ้ำที่บริเวณลำคอและลำตัวอีก พร้อมกับนำหัวแก้สเหล็กทุบตัว น.ส.บิสมีจนแน่นิ่ง จากนั้นจึงลงมือแทง ด.ญ.นัสรินฯที่ลำคอและลำตัว จนเสียชีวิต เนื่องจากเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด จากนั้นแล้วจึงนำศพทั้งสองคนใส่รถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้างไปทิ้งที่ใต้สะพานบ้านกาหนั๊วะ ม.5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ แล้วย้อนกลับมาที่บ้าน เช็ดเลือดทำความสะอาด พร้อมกับนำรถจยย.ของผู้ตาย ใส่ขึ้นรถจักยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้าง นำของผู้ตายในกระเป๋าเป้ไปทิ้งที่บริเวณริมถนน ซึ่งห่างจากจุดทิ้งศพ ประมาณ 2 กม. แล้วนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายกลับไปบ้านภรรยาที่บ้านกะแนะ ม.3 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำการถอดป้ายทะเบียนออกแล้วให้ลูกสาวนำไปใช้ แล้วย้อนกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านพ่ออีกครั้ง จนกระทั่งเช้าตรู่ของวันที่ 7.พ.ย.60 ถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัว ซึ่งก่อนจบการแถลงข่าว พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้มีการมอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งมอบเงินปลอบขวัญให้กำลังใจแก่นางเจ๊ะมีเนาะ ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.บิสมี ในครั้งนี้ด้วย ต่อมา พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สภ.ระแงะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ได้นำตัวนายฮาซัน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรก เป็นบ้านของนายแมเร๊าะ เจ๊ะฮะ เลขที่ 53 ม.3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบิดาของนายฮาซัน โดยนายฮาซัน อาศัยช่วงจังหวะที่บิดาและเครือญาติไม่อยู่บ้าน ได้ชักชวน นางบิสมีและด.ญ.นัสริน หลังพบกันโดยบังเอิญแบบที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไปอาศัยอยู่บ้านของบิดานายฮาซัน ซึ่งในระหว่างนั้นนางบิสมี มีปัญหาทางบ้านจึงได้หนีออกมาจากบ้าน นางบิสมี จึงตกลงปลงใจขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน 1กก 4312 นราธิวาส ตามนายฮาซัน ซึ่งขี่รถ จยย.พ่วงข้าง มายังบ้านของบิดานายฮาซัน และในช่วงเวลา ประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 4 พ.ย. 60 นายฮาซัน เกิดอารมณ์ทางเพศจึงได้ชวนนางบิสมีหลับนอน แต่นางบิสมีขัดขืน นายฮาซัน จึงได้เดินไปที่ห้องครัวหยิบหัวแก๊ส มาทุบตีที่ศรีษะนางบิสมี เมื่อถูกทีบตีนางบิสมี ร้องเสียงดัง นายฮาซัน จึงได้ลุกเดินไปหยิบมีดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทีวี นำมาแทงคอและลำตัวนางบิสมี จนเสียชีวิต ในระหว่างนั้น ด.ญ.นัสริน ซึ่งนอนหลับข้างนางบิสมี ตื่นพบเห็นเหตุที่เกิดขึ้น นายฮาซัน จึงตัดสินใจใช้มีดเล่มดังกล่าวแทง ด.ญ.นัสริน จนเสียชีวิต จากนั้นนายฮาซัน จึงได้แยกศพ 2 แม่ลูกขึ้นรถ จยย.พ่วงข้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายฮาซัน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่นายฮาซัน นำศพ 2 แม่ลูกไปทิ้งที่ใต้สะพานบ้านกาหนั้วะ ม.5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ ซึ่งเมื่อนายฮาซัน นำศพ2แม่ลูกไปถึงจุดเกิดเหตุ นายฮาซัน ได้ยกศพนางบิสมี ข้ามราวสะพานโยนทิ้งลงไปใต้สะพาน และตามด้วยศพ ด.ญ.นัสริน และเมื่อทิ้งศพ 2 แม่ลูกแล้ว นายฮาซัน ได้เดินทางกลับไปบ้านบิดา เพื่อเช็ดคราบเลือดและทำความสะอาดห้องให้เป็นไปตามปกติ สำหรับนายฮาซัน ผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เป็นคนที่ไม่มีอาชีพอะไรที่แน่นอน โดยพฤติกรรมทั่วไปชอบลักขโมยของ และรับจ้างทั่วไป ไม่มีรายได้ที่แน่นอนอีกทั้งยังติดยาเสพติดอีกด้วย