พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็น พร้อมคำแนะนำ ว่า ไม่มีระดับความดันโลหิตที่ห้ามฉีดวัคซีนโควิด โดยระบุข้อความ ว่า...ปัญหาที่หลายคนมาฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วไม่ได้ฉีด คือ วัดความดันโลหิตแล้วสูง หลายคนตื่นเต้น กลัวการฉีดวัคซีน บางคนที่มีความดันโลหิตสูงก็ไม่ได้ทานยาตามปกติ ความดันโลหิตก็เลยขึ้น คำแนะนำล่าสุด ไม่มีระดับความดันโลหิตที่ห้ามฉีดวัคซีนโควิด ยกเว้นกำลังอยู่ในภาวะความดันโลหิตสูงฉุกเฉินวิกฤตที่มีอาการอื่นแสดงร่วมด้วย และผู้มีความดันโลหิตสูง ไม่ต้องงดยาลดความดันโลหิตก่อนฉีดวัคซีน
ขณะที่ ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ก็ได้นำข้อมูลของ พล.อ.ท.นพ.อนุตตร ไปโพสต์ต่อ พร้อมข้อความเห็นด้วย ว่า...ควรเลิกวัดความดันก่อนฉีดวัคซีนได้แล้วครับ หลายประเทศยกเลิกการวัด vital signs ก่อนฉีดวัคซีนไปแล้วด้วยซ้ำ
ด้าน อ.นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ว่า...มีหลายคนถามความเห็นหมอหัวใจว่า เราควรเลิกการวัดความดันโลหิต ก่อน-หลัง การฉีดวัคซีน เป็น routine ได้ไหม เห็นในหลายประเทศเขาไม่วัดกัน
ซึ่งในความเห็นของ อ.นพ.รังสฤษฎ์ มี ดังนี้...ไม่มีเหตุผลทางชีววิทยาใดๆ ที่จะชวนให้กังวลว่า ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ความดันโลหิตจะขึ้น จนเป็นอันตราย ความดันที่ขึ้นจากการฉีดส่วนใหญ่เป็นจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความเครียด ความกลัว ซึ่งก็เจอกับกรณีทุกวัคซีน และหัตถการการรักษาอื่นๆ ก่อนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ก็ไม่มีความจำเป็นในการตรวจความดันก่อนและหลัง ส่วนใหญ่เขาก็ไม่วัดกัน ช่วงแรกๆ คิดว่าเพราะ วัคซีนตัวนี้เป็นของใหม่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ ผู้วางระบบก็กลัว กันไว้ก่อนเป็นธรรมดา แต่ตอนนี้ฉีดกันไปแล้วกว่า 10 ล้านคนคุ้นเคยกันพอแล้ว น่าจะเลิกได้แล้วครับ