ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 5 ผู้ต้องหา “แก๊งช้างดำ” อุ้มฆ่าโหดสองสาวชาวลาวหมกป่าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อปี 2559 ศาลระบุหลักฐาน ซิมโทรศัพท์และเศษกระดาษบันทึกเบอร์โทรมือสังหาร ประกอบพยานบุคคล สาเหตุคาดเจ๊นางขาใหญ่เมืองลาวจ้างวานฆ่าเพราะความหึงหวง เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 7 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายรัชดา จุฬารี อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ มีคำสั่งจำคุกตลอดชีวิต 5 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายโอกาศ หรือโอกาส หรือเอี้ยง ตั้งใจมั่นดีกุล อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 7 ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ,2.นายเฉลิมพงษ์ หรือเป้ ฉายไสว อายุ 32 ปี เลขที่235 ถนนริมครองสมถวิล ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม,3.นายธงชัย หรือทน ทีจันทร์มาตย์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 9 ตำบลท่าตูม อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 4.นายปุณณภพ หรือสัน ภูศิลาแทน อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 183 หมู่ที่ 3 ตำบลยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ และ 5. นางกุลนันท์หรือเอ แสงโสภณ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 300/60 ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู โดยศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต นายโอกาสหรือโอกาสหรือเอี้ยง ตั้งใจมั่นดีกุล กับพวกรวม 5 คน ในฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายและร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น นายรัชดา จุฬารี อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้ ได้มอบหมายให้ นายฤาชา วัฒนเนติกุล เป็นอัยการผู้รับผิดชอบคดี ซึ่งคดีนี้ เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559 ตำรวจภูธรอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พบศพ นางกอง หรือกองคำ พรมมะสี และนางจันทะหมอน หรือจันสะหมอน เสนสักดา สองสาวชาวลาว ในป่าละเมาะ ข้างโรงปุ๋ย หมูที่ 11 ตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทั้งสองถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดสภาพศพถูกจ่อยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ต่อมาเพียง 3 วันหลังพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว 5 ผู้ต้องหา และทราบว่าถูกอุ้มขึ้นรถเช่าและฆ่าในเขตจังหวัดมุกดาหารก่อนจะนำศพมาอำพรางคดี ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้ใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนถึง 84 วัน เพื่อส่งสำนวนต่อสำนักงานอัยการ ซึ่งพนักงานอัยการฯ จึงได้ทำการส่งฟ้องเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 โดยระหว่างพิจารณาคดี มีการสืบพยานโจทย์จำนวน 40 ปาก และสืบพยานจำเลย 10 ปาก หลักฐานเชื่อมโยงไปที่ แก๊งช้างดำ มีนายโอกาส หรือเอี้ยง ตั้งใจมั่นดีกุล เป็นหัวหน้าแก๊งและเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง ศีรษะสาวลาวทั้งสอง ก่อนทั้งหมดจะช่วยกันนำศพไปอำพรางคดี จนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ด้วยหลักฐานทั้งพยานบุคคลและในที่เกิดเหตุ ศาลจึงมีคำสั่งจำคุกจำเลยทั้ง 5 คน ตลอดชีวิต สำหรับคดีนี้ มีรายงานว่า การทำงานของพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ได้เร่งทำงานกันอย่างเต็มนี้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ต้องทั้งสองคนเป็นคนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้สื่อท้องถิ่นและสื่อลาวให้ความสนใจ การหาหลักฐานสำคัญนั้นได้จากที่เกิดเหตุซึ่ง มีธนบัตรเงินสกุลลาว โดยเฉพาะ กระดาษที่หนึ่งในผู้ตายได้เขียนเบอร์โทรศัพท์ของ หนึ่งใน 5 ผู้ต้องหา ก่อนจะทำการตรวจสอบจากซิมโทรศัพท์ในที่เกิดเหตุ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ว่าเป็นฝีมือของแก๊งช้างดำที่รับการจ้างวานมาจากเจ้นางขาใหญ่ในแขวงสะหวันเขต สาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว จึงได้ทำการจับกุม จนมีคำสั่งศาลตัดสินจำคุกในที่สุด อย่างไรก็ตามเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธ ระหว่างนี้จึงอยู่ระหว่างที่ผู้ต้องหายืนคำอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีต่อไป