เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปากทางเข้าออกหมู่บ้านโป่งคอก หมู่ 14 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ทางผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข ได้จัดกำลังตั้งจุดสกัดห้ามไม่ให้บุคคลภายในหมู่บ้านเข้าออกจากพื้นที่ ภายหลังจากนายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง ได้ออกคำสั่งอำเภอเสิงสาง ปิดหมู่บ้านดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.64 ไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค.64 เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อในหมู่บ้าน 3 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 36 ราย ส่วนชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดเข้าข่ายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ รวมทั้งหมดประมาณ 160 คน จากทั้งหมด 68 ครัวเรือน โดย นายสานิตย์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่บ้านโป่งคอกเริ่มต้นจากการที่ทีมสอบสวนโรคโควิด-19 ของอำเภอเสิงสางสืบทราบว่ามีหญิงที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำรายหนึ่งเดินทางกลับมาบ้านพักที่บ้านโป่งคอก โดยบุตรชายที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองนครราชสีมาเป็นผู้ขับรถมาส่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา และไม่ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่ และต่อมาวันที่ 27 มิ.ย.64 บุตรชายที่มาส่งทราบผลว่าติดเชื้อ และได้มีการโพสต์ข้อความเล่าสถานการณ์ผ่านทางเฟชบุ๊ก จนทีมสอบสวนทราบข้อมูล จากนั้นได้ทำการสอบสวนประวัติ และทราบว่าได้พามารดามาส่งที่บ้าน จึงนำทีมเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่และสอบประวัติผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกักตัวผู้ใกล้ชิดสัมผัสเสี่ยงสูงและทำการตรวจหาเชื้อ จนพบว่ามารดาของผู้ติดเชื้อพร้อมคนในบ้านก็ได้ติดเชื้อเช่นเดียวกันรวม 3 ราย นอกจากนี้ จากการสอบสวนในเชิงลึกยังพบว่า ครอบครัวมารดาของผู้ติดเชื้อรายแรกที่มาทราบผล ภายหลังว่าติดเชื้อเช่นเดียวกันนั้น ได้มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับ เนื่องจากเพิ่งพ้นโทษกลับมาบ้านและมีการสังสรรค์ รวมถึงยังมีการลงแขกแรงงานเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง จึงทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมรวมทั้งหมด 36 ราย รวม 22 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำทั้งหมด ทางอำเภอจึงจำเป็นที่จะต้องทำการปิดหมู่บ้าน เพราะถือเป็นวิธีการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเชื่อว่าน่าจะมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากกรณีนี้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่ง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเสิงสาง วันนี้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 รวมทั้งหมด 42 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเสิงสางจำนวน 30 ราย ทำให้ขณะนี้เตียงที่ทางโรงพยาบาลเสิงสางจัดเตรียมไว้สำหรับทำการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอยู่จำนวน 30 เตียงเต็มทั้งหมดแล้ว ทางอำเภอเสิงสางจึงต้องจัดเตรียมแผนสำรองเอาไว้ล่วงหน้า สำหรับโรงพยาบาลเตรียมจะเพิ่มจุดรับผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 12 เตียง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ขณะที่ทางอำเภอพร้อมกับทางเทศบาลตำบลเสิงสางได้ประสานขอใช้สถานที่ศาลาการเปรียญของวัดสว่างวนาราม ที่อยู่ติดกับโรงพยาบาลเสิงสาง จัดเตรียมเป็นโรงพยาบาลสนามกึ่งศูนย์กักตัวผู้มีความเสี่ยงสูง เพื่อรองรับในผู้ป่วยในกรณีที่โรงพยาบาลเสิงสางไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับได้อีกประมาณ 30 เตียง