วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมกรมควบคุมมลพิษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยรถเครื่อนที่เร็ว และอุปกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ โดยรอบที่เกิดเหตุเพื่อตรวจวัดค่าออกซิเจนทางอากาศและทางน้ำ นอกจากบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ยังกระจายกำลังลงตามชุมชนในรัศมี 1 กิโลเมตรโดยรอบและเน้นภายในชุมชน โดย นาย อาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ชลบุรี หลังนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจวัดสภาพอากาศและเก็บตัวอย่างน้ำในจุดที่เกิดเหตุและรอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อส่งไปทำการตรวจหาสารปนเปื้อน ได้กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีการลงสำรวจคุณภาพน้ำและคุณภาพอากาศ พบว่าหากไม่มีการปะทุของแสงเพลิงขึ้นมาอีก คุณภาพอากาศก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานในระดับความปลอดภัย แต่หากมียังมีการปะทุขึ้นมาในแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ยังตรวจเจอสารพวกฟอล์มัลดีไฮด์หรือสารอันตรายบางตัวในอากาศ ทั้งนี้อยู่ที่หน้างานที่เกิดเหตุไฟดับสนิทหรือยัง ถ้าไฟดับสนิทก็จะใช้เวลาวันถึงสองวันค่ามลพิษในอากาศก็จะปลอดภัยประชาชนก็สามารถกลับเข้ามาบ้านพักได้ ส่วนค่าเจอปนสารพิษทางน้ำ เนื่องจากเป็นการเกิดเหตุเพลิงไหม้สารเคมี ทำให้มีควันพิษลอยสูงทางอากาศ เมื่อเจอฝนตกลงมา จะทำให้มีเขม่าหรือขี้เถ้าลอยในชั้นอากาศ ถูกน้ำฝนปนลงสู่พื้นดินและแหล่งน้ำต่าง ๆ รวมถึงน้ำที่ประชาชนใช้รองน้ำฝนไว้ใช้กินใช้อาบก็จะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ซึ่งแนะนำควรงดนำน้ำจากธรรมชาติมาใช้ดื่มในช่วงนี้ ส่วนการนำมาใช้ก็ควรสังเกตหากพบอาการคันก็ควรหยุดใช้ ทางที่ดีควรใช้น้ำประปาจะปลอดภัยที่สุด อีกทั้งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีจังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งวอรูมวางแผนเข้าทำการกำจัดสารเคมีอันตรายในจุดที่เกิดการปะทุของเปลวไฟ โดยมีการเรียกประชุมวางแผนร่วมกับนักผจญเพลิงของ ปภ.ที่จะเข้าไปในถุงที่บรรจุสารเคมีในจุดที่เกิดเหตุโดยในที่เกิดเหตุต้องมีการฉีดน้ำยาเคมีโฟมเลี้ยงตลอดเวลา เพื่อควบคุมอุณหภูมิเคมีในถังเพื่อให้เท่ากับอุณหภูมิภายนอก เตรียมนำสารเคมี ดี 5 เทใส่ลงไปเพื่อปรับสภาพของเคมีไม่ให้ติดไฟก่อนทำการเคลื่อนย้ายไปทำลาย ขณะเดียวกันที่ห้องประชุม มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งตั้งเป็นศูนย์อำนวยการ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้เรียกประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่นผู้เชียวชาญ จาก ปตท.เจ้าหน้าที่ ปภ.ตำรวจ ทหาร เพื่อวางแผ่นการทำงาน โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชม.ก่อนที่ ผวจ.สมุทรปราการ จะขึ้นมาแถลงข่าว ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ทั้งนี้ นายวันชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ สำหรับการคลี่คลายสถานการณ์ คืบหน้าไปมาก โดยวันนี้ได้ประชุมกับผู้ชำนานการจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน จนได้ข้อสรุปว่า ตอนนี้ปัญหามีอยู่สองสวน คือ สารเคมีที่ยังอยู่ในถังกว่า 1,600 ลิตร ยังหลงเหลือกี่ลิตร และ ที่รั่วไหลออกมาถูกเผาไหมไปแล้วกี่ลิตร ซึ่งการประชุมได้แยกการดำเนินการเป็นสองชุด โดยชุดแรกจะเข้าไปดำจัดการสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งในภาคพื้นดินและ ในถัง โดยจะใช้สารเคมี DEHA เข้าไปเจือปนให้เป็นกลางและก่อให้ติดไฟน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือการเข้าถึงตัวถังสารเคมี ซึ่งตรงนี้ต้องมีการสำรวจให้รอบคอบ เพื่อให้มันใจว่ามีความปลอดภัยสูงสุดก่อนที่จะให้ผู้ชำนาญการเข้าจัดการกับสารเคมีที่เหลืออยู่ต่อไป ด้าน พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ในส่วนของประชาชนที่จะกลับเข้าสู่ที่พักนั้น หลังจากได้มีการประชุม โดยหลายๆ ฝ่ายเห็นว่าสถานการณ์เริ่มปลอดภัยมากขึ้น ประชาชนที่อยู่ศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับเข้าที่พักและประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันออกนั้น สามารถเข้าพื้นที่ได้ทั้งหมด แต่ยกเว้นผู้ที่พักอยู่ในซอย 19-25 ที่ยังประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุม ทั้งนี้จะเปิดให้ใช้ถนนและกลับบ้านพักได้ในเวลา 17.00 น.ของวันนี้ ส่วนเรื่องของคดี ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน ผู้ได้รับบาดเจ็บที่พอใจให้การได้ไปแล้วบางส่วน รวมถึงผู้จัดการโรงงาน และพนักงานที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ แต่ข้อสรุปนั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจที่เกิดเหตุได้ สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย