นครพนม วุ่นอีก แรงงานหนีกลับจาก กทม. แถมติดเชื้อโควิด พบยอดป่วยเพิ่ม อีก 30 ราย สะสมสูงกว่า 270 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3 ราย จังหวัดเร่งรับมือ เตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนาม 12 อำเภอ สสจ.มั่นใจรับมือไหว คาดเพิ่มต่อเนื่อง วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ หลังมีการแพร่ระบาด พบยอดผู้ป่วยเพิ่มรายวัน เนื่องจากมีแรงงานแห่กลับจาก กทม. และต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิเนา ล่าสุดวันนี้ พบยออดผู้ป่วย เพิ่มวันเดียว ถึง 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์กลุ่มแรงงานที่ ติดเชื้อมาจาก กทม. แต่เดินทางกลับมารักษาที่ภูมิลำเนา โดยทาง สสจ.นครพนม พร้อมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้วางมาตรการเข้ม ในการตรวจสอบคัดกรอง ก่อนเข้าพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่ม ซึ่งนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ทุกราย เพื่อทำการรักษา ส่วนยอดผู้ป่วยสะสม ล่าสุดรวม 270 ราย รักษาหายแล้ว 147 ราย กำลังรักษาอยู่ 120 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยรายที่ 152 ของจังหวัดนครพนม เพศชาย อายุ 61 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอปลาปาก แต่ด้วยมีโรคประจำตัวที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิต เนื่องจากเป็นคนอ้วนน้ำหนัก 103 กิโลกรัม มีโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือด จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 รวมมีผู้เสียชีวิตสะสม 3 ราย ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้หารือ ร่วมกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนม เตรียมพร้อมรับมือ จากสถานการณ์ที่พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทางโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ ทั้ง 12 อำเภอ จัดเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการรักษาให้เพียงพอ ทั้งในส่วนของพื้นที่และห้องต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องโรงพยาบาลสนามของแต่ละโรงพยาบาลชุมชนด้วย โดยจะมีการบริหารจัดการแบ่งผู้ป่วยออกเป็นผู้ที่มีอาการหนัก อาการปานกลาง และอาการไม่รุนแรง เพื่อคัดแยกการรักษา ทั้งนี้ได้มีคำสั่งให้ ทุกอำเภอ ทั้ง 12 อำเภอ จัดเจ้าหน้าที่ คอยตรวจสอบ คัดกรอง กลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่ม ซึ่งมั่นใจว่าโรงพยาบาลสนาม ยังสามารถรองรับได้เพียงพอ แต่ยังกังวลเรื่องผู้ป่วยที่จะเดินทางกลับมาภูมิลำเนาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง