กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.40 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.19 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 31.83-32.28 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 14 เดือน ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในกลุ่มด้วยอัตรา 6.6%เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลักในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงสดใสต่อเนื่องหนุนดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่นักลงทุนกังวลกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในหลายภูมิภาคของโลก กดดันสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ให้อ่อนค่าลง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 9,564 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 11,822 ล้านบาท
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ข้อมูลการจ้างงานเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่นแต่ไม่ถึงกับร้อนแรงเกินไปในระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต้องรีบทวนเข็มนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวมจึงสามารถประคองตัวได้ค่อนข้างดี สัปดาห์นี้ตลาดจะให้ความสนใจกับการเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายนของเฟด รวมถึงดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯเพื่อประเมินจังหวะเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ แม้กรุงศรีมองว่าการวิ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ในระยะนี้ได้สะท้อนว่าตลาดปรับคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายของเฟดไปมากพอสมควรแล้ว แต่สถานการณ์ COVID-19 นอกสหรัฐฯที่ขยายวงมากขึ้น อาจจำกัดการปรับฐานลงของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมีแนวโน้มผันผวนสูง
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน สถานการณ์การแพร่ระบาดที่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ รวมถึงทิศทางการจัดหาและกระจายวัคซีน ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าบัญชีเดินสะพัดเดือนพฤษภาคมขาดดุล 2.6 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นการขาดดุลเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เครื่องชี้วัดการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากเดือนเมษายน สะท้อนผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกสาม แต่การใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออกช่วยพยุงกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้บ้าง ส่วนผู้ว่าการธปท. ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว ขณะที่สภาพคล่องในระบบมีสูงพอ โดยคาดว่าภาคการท่องเที่ยวจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีก่อนจะกลับสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาด อนึ่ง กรุงศรีคาดว่าความยืดเยื้อของสถานการณ์และความไม่แน่นอนในการจัดสรรวัคซีนที่มีประสิทธิภาพจะฉุดรั้งความเชื่อมั่นอย่างมีนัยสำคัญในระยะนี้