วันที่ 5 ก.ค 2564 เกิดเหตุสยองในเขตพื้นที่ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.ภิรมย์ มาลาสี รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแท่น ได้รับแจ้งมีเหตุลูกฆ่าพ่อแท้ๆจนตาย
ที่หมู่ 4บ้านวังหิน ตำบลบ้านเต่า อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างพุทธธรรมอำเภอบ้านแท่นและแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านแท่นรุดเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงพบคราบเลือดและกลิ่นสาบตลบอบอวลไปทั่วในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาพบศพของชายอายุ 65 ปี ที่หมู่ 4บ้านวังหินตำบลบ้านเต่า อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ ในสภาพใส่กางเกงในตัวเดียวนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด บริเวณลำคอด้านหน้าและหลังมีร่องรอยถูกของมีคมฟันจนเละหวิดขาดออกตามร่างกายแขนซ้ายใบหน้ายังพบรอยแผลถูกฟันฉกรรจ์เช่นกัน ใกล้กันยังพบนายอนุชาศรนรินทร์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ (ผู้ก่อเหตุ) นั่งก้มหน้ารอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณมือ ขาและแขนเต็มไปด้วยเลือด ของผู้เสียชีวิต ใกล้กันยังพบมีดอีโต้ ทำครัวตก อยู่บนพื้น และรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นสอบถามนางวันเพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพ เป็นชาวไร่ชาวนา มีลูกชายด้วยกัน 2 คนคนโตไปทำงานที่ต่างจังหวัด โดยได้พักอาศัยอยู่กับลูกชายของตนเพียงลำพัง ซึ่งตนเองจะนอนอยู่ใต้ถุนบ้านและลูกชายจะนอน อยู่ในกระต๊อบเล็กๆข้างมุมรั้วของบ้าน โดยที่ผ่านมาได้สังเกตุว่าทั้งสองคนพ่อลูกและชอบมีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่ภรรยาของนายสำรอง ศรนรินทร์ ได้เสียชีวิตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนนั้น นายอนุชา ได้เข้ารับการรักษาตัวซึ่งมีอาการป่วยจิตเวชมาระยะหนึ่งแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงของนายอนุชา ลูกชายผู้ตายเหมือนใช้มีดสับอะไรสักอย่าง ดังมาก ก็คิดอยู่ว่ามาสับอะไรกลางดึกกลางดื่น แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนมารู้ทีหลังว่านายอนุชา ได้ลงมือใช้มีดฆ่าอีโต้ สับคอพ่อแท้ๆของตนแล้วจนตาย ซึ่งเห็นแล้วรู้สึกสยองและรู้สึกสลดใจ กับผู้ตาย
ขณะที่นายวิรุส ฝั่งสระ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังหิน ได้เล่าว่าก่อนหน้านี้นายอนุชาได้เข้ารับการรักษาตัวเพื่อที่จะบำบัดอาการป่วยจิตเวช ของตนและหมอได้เตือนว่าผู้ป่วยอาจจะมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้อื่นหรือทำให้ได้รับอันตรายได้ และก่อนหน้านี้นายอนุชาได้มีการทะเลาะเบาะแว้งกับพ่อตัวเองอยู่เกือบเป็นประจำทำวัน จนในที่สุด จึงได้เกิดเหตุลงมือฆ่าพ่อ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ควบคุมตัวนายอนุชาคนก่อเหตุ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนศพผู้เป็นพ่อ ที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านแท่นได้เข้าตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด และมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทางญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
เบื้องต้นสอบถามนางวันเพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพ เป็นชาวไร่ชาวนา มีลูกชายด้วยกัน 2 คนคนโตไปทำงานที่ต่างจังหวัด โดยได้พักอาศัยอยู่กับลูกชายของตนเพียงลำพัง ซึ่งตนเองจะนอนอยู่ใต้ถุนบ้านและลูกชายจะนอน อยู่ในกระต๊อบเล็กๆข้างมุมรั้วของบ้าน โดยที่ผ่านมาได้สังเกตุว่าทั้งสองคนพ่อลูกและชอบมีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่ภรรยาของนายสำรอง ศรนรินทร์ ได้เสียชีวิตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนนั้น นายอนุชา ได้เข้ารับการรักษาตัวซึ่งมีอาการป่วยจิตเวชมาระยะหนึ่งแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงของนายอนุชา ลูกชายผู้ตายเหมือนใช้มีดสับอะไรสักอย่าง ดังมาก ก็คิดอยู่ว่ามาสับอะไรกลางดึกกลางดื่น แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนมารู้ทีหลังว่านายอนุชา ได้ลงมือใช้มีดฆ่าอีโต้ สับคอพ่อแท้ๆของตนแล้วจนตาย ซึ่งเห็นแล้วรู้สึกสยองและรู้สึกสลดใจ กับผู้ตาย
ขณะที่นายวิรุส ฝั่งสระ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังหิน ได้เล่าว่าก่อนหน้านี้นายอนุชาได้เข้ารับการรักษาตัวเพื่อที่จะบำบัดอาการป่วยจิตเวช ของตนและหมอได้เตือนว่าผู้ป่วยอาจจะมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้อื่นหรือทำให้ได้รับอันตรายได้ และก่อนหน้านี้นายอนุชาได้มีการทะเลาะเบาะแว้งกับพ่อตัวเองอยู่เกือบเป็นประจำทำวัน จนในที่สุด จึงได้เกิดเหตุลงมือฆ่าพ่อ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ควบคุมตัวนายอนุชาคนก่อเหตุ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนศพผู้เป็นพ่อ ที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านแท่นได้เข้าตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด และมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทางญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป