วันที่ 2 ก.ค.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก รายงาน ว่า นพ.ฮันส์ คลูเกอ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำภูมิภาคยุโรป ได้กล่าวว่า มีอัตราการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในภูมิภาค เพิ่มขึ้น 10% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยภูมิภาคยุโรปตามการแบ่งของดับเบิลยูเอชโอ ประกอบด้วยสมาชิกสหภาพยุโรป ( อียู ) 27 ประเทศ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี อิสราเอล และประเทศในเอเชียกลางอีกหลายแห่ง อีกทั้งยังมีเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์เดลตา ที่ขยายขอบเขตการแพร่ระบาดในภูมิภาค แม้หลายๆ ประเทศเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน และหวังตัดวงจรการติดต่อของเชื้อโรค แต่ยังคงมีประชาชนอีกหลายล้านคนที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
โดย นพ.คลูเกอ ยังกล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ซึ่งเลื่อนมาจากปีที่แล้ว และมีการจัดการแข่งขันหมุนเวียนกันในหลายประเทศว่า นับเป็นการเคลื่อนย้ายประชากรจำนวนมหาศาลครั้งใหญ่พร้อมกันในคราวเดียว ตอนนี้มีรายงานเข้ามาที่ดับเบิลยูเอชโอมากขึ้น ว่าพบผู้ติดเชื้อซึ่งมีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับการเข้าชมฟุตบอลยูโรในหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนโรคไม่สามารถจำกัดได้แค่พฤติกรรมภายในสนามแข่งขัน เจ้าหน้าที่ต้องลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่การเดินทางออกจากบ้านของผู้ป่วยคนนั้น ไปจนถึงการเดินทางกลับบ้าน ว่าใช้บริการสถานที่แห่งใดบ้าง ใช้ระบบขนส่งสาธารณะแบบใด นี่คือกลุ่มเสี่ยงขนาดใหญ่ หากประชาชนในยุโรปยังคงการ์ดตกเช่นนี้ การเผชิญกับระลอกที่สามของโรคโควิด-19 คงหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอขอบคุณรูปภาพจาก REUTERSCrowds at Euro 2020 soccer stadiums and in pubs and bars in host cities are driving the current rise in coronavirus infections in Europe, the World Health Organization (WHO) said https://t.co/CHSDLbhKiS pic.twitter.com/IFW5eBBNeI
— Reuters (@Reuters) July 1, 2021