นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ณ ด่านท่าฉัตรไชย เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานคัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตทางบนในวันเเรกของการการเปิดเมือง Phuket Sandbox
วันที่ 1 ก.ค.64 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต นายกได้เดินทางต่อไปยังด่านตรวจภูเก็ต หรือด่านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เพื่อตรวจเยี่ยมระบบคัดกรองผู้เดินทางเข้าจังหวัด โดยพื้นที่การคัดกรองจะแบ่งออกเป็น 3 ช่องทาง คือ ช่องทางที่ 1 และ 2 จะเป็นช่องทางสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนช่องทางที่ 3 เป็นช่องทางสำหรับรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งแต่ละช่องทางจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 15 นาย คอยตรวจคัดกรองรถขาเข้าแต่ละจุด
ทางด้านนายวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้อธิบายขั้นตอนการทำงานของระบบตรวจติดตามนักท่องเที่ยวทั้งกล้อง CCTV ระบบจดจำใบหน้า ที่ Depa ได้พัฒนาขึ้นเชื่อมโยงระบบต่างๆ ทั้งด่านทางบก ท่าเรือ โรงเเรมชาพลัส ไว้กับศูนย์ EOC จังหวัด เพื่อติดตามตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา โดยนักท่องเที่ยวจะต้องโหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ภาษาอังกฤษ และเปิดแชร์ Location ตลอดเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต หากนักท่องเที่ยวปิดหรือถอนระบบแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ทางเจ้าหน้าที่จะทราบผลภายใน 15 นาที ทำให้สามารถประสานไปยังโรงแรมที่นักท่องเที่ยวพำนักได้ติดตามตัวได้ทัน โดยทำงานประสานงานร่วมกันกับ EOC ประจำตำบลในพื้นที่นั้น ๆ และ SHA Plus Manager เป็นผู้สรุปผลยอดการเข้าพักของนักท่องเที่ยวรายวัน ซึ่งยอดแต่ละวันจะต้องตรงกับยอดผู้เข้าพักทั้งหมด ป้องกันนักท่องเที่ยวหลุดออกจากจังหวัดก่อน 14 วัน
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ช่วยกัน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชนโดยเฉพาะทีมแพทย์ สสจ. และ อสม.ที่เป็นกำลังหลัก เป็นด่านหน้าในการควบคุมโรค ให้ Phuket Sandbox เดินต่อได้ จากนั้น ได้เยี่ยมกำลังใจทีม อสม.ที่มารอต้อนรับ โดยกล่าวชื่นชม ในความเสียสละที่ช่วยป้องกันประเทศ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายพยายามทำความเข้าใจและสื่อสาร เรื่องราวของ Phuket Sandbox ไปนอกพื้นที่ด้วย ที่สำคัญคือคาดหวังอยากให้คนในชาติลดความขัดแย้ง มิเช่นนั้น ประเทศจะเดินต่อไม่ได้ วันนี้รัฐบาลได้วางแผน Lanscape ประเทศไปข้างหน้า จึงอยากให้ทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ก้าวพาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ประเทศ
วันที่ 1 ก.ค.64 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต นายกได้เดินทางต่อไปยังด่านตรวจภูเก็ต หรือด่านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เพื่อตรวจเยี่ยมระบบคัดกรองผู้เดินทางเข้าจังหวัด โดยพื้นที่การคัดกรองจะแบ่งออกเป็น 3 ช่องทาง คือ ช่องทางที่ 1 และ 2 จะเป็นช่องทางสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนช่องทางที่ 3 เป็นช่องทางสำหรับรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งแต่ละช่องทางจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 15 นาย คอยตรวจคัดกรองรถขาเข้าแต่ละจุด
ทางด้านนายวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้อธิบายขั้นตอนการทำงานของระบบตรวจติดตามนักท่องเที่ยวทั้งกล้อง CCTV ระบบจดจำใบหน้า ที่ Depa ได้พัฒนาขึ้นเชื่อมโยงระบบต่างๆ ทั้งด่านทางบก ท่าเรือ โรงเเรมชาพลัส ไว้กับศูนย์ EOC จังหวัด เพื่อติดตามตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา โดยนักท่องเที่ยวจะต้องโหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ภาษาอังกฤษ และเปิดแชร์ Location ตลอดเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต หากนักท่องเที่ยวปิดหรือถอนระบบแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ทางเจ้าหน้าที่จะทราบผลภายใน 15 นาที ทำให้สามารถประสานไปยังโรงแรมที่นักท่องเที่ยวพำนักได้ติดตามตัวได้ทัน โดยทำงานประสานงานร่วมกันกับ EOC ประจำตำบลในพื้นที่นั้น ๆ และ SHA Plus Manager เป็นผู้สรุปผลยอดการเข้าพักของนักท่องเที่ยวรายวัน ซึ่งยอดแต่ละวันจะต้องตรงกับยอดผู้เข้าพักทั้งหมด ป้องกันนักท่องเที่ยวหลุดออกจากจังหวัดก่อน 14 วัน
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ช่วยกัน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชนโดยเฉพาะทีมแพทย์ สสจ. และ อสม.ที่เป็นกำลังหลัก เป็นด่านหน้าในการควบคุมโรค ให้ Phuket Sandbox เดินต่อได้ จากนั้น ได้เยี่ยมกำลังใจทีม อสม.ที่มารอต้อนรับ โดยกล่าวชื่นชม ในความเสียสละที่ช่วยป้องกันประเทศ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายพยายามทำความเข้าใจและสื่อสาร เรื่องราวของ Phuket Sandbox ไปนอกพื้นที่ด้วย ที่สำคัญคือคาดหวังอยากให้คนในชาติลดความขัดแย้ง มิเช่นนั้น ประเทศจะเดินต่อไม่ได้ วันนี้รัฐบาลได้วางแผน Lanscape ประเทศไปข้างหน้า จึงอยากให้ทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ก้าวพาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ประเทศ