สืบดอนเมือง รวบหนุ่มตระเวนลักรถจักรยานคลาสสิค มาถอดประกอบใหม่ พร้อมของกลางรถจักรยาน 3 คัน อะไหล่อีกจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 พ.ต.อ.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ท.อดิเรก ทองแกมแก้ว รอง ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.เข็มกล้า มั่นพลับ พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.ภาคิน ดอกไม้ ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง กำลังฝ่ายสืบสวน ร่วมกับจับกุมตัวนายนิรุต แก้วเนตร อายุ 37 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยน 3 คัน เครื่องมือประแจถอดรถจักรยาน และอะไหล่รถจักรยาน จำนวนหนึ่ง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ125ไอ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้าย 1 คัน โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ ซ.ช่างอากาศอุทิศ 5 แยก 4 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ได้รับรายงานในพื้นที่มีรถจักรยานหายอยู่บ่อยครั้ง ทั้งในพื้นที่หมู่บ้าน และในพื้นที่แฟลตทหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถรุ่นที่หายาก มีราคาแพง เมื่อได้รับข้อมูลฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ได้ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะที่คนร้ายใช้ โดยเจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายสวมชุดนักปั่นจักรยาน กำลังปั่นจักรยานเสือหมอบสีแดง ไปดูรถผู้เสียหายที่จอดไว้บริเวณบ้านพักใกล้วงเวียนปิ่นเจริญ 2 ก่อนจะกลับมาขับรถจักรยานยนต์กลับไปขนรถจักรยานของกลางกลับมาที่พักในซอยช่างอากาศอุทิศ 5 แยก 4 กระทั้งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. เจ้าหน้าที่พบชายลักษณะตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิดปั่นจักรยานกลับเข้ามาที่บ้านพักในซ.ช่างอากาศอุทิศ 5 แยก4 จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ โดยนายนิรุต ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงและ ยังยอมรับว่ามีรถจักรยานของกลางที่ลักมาอีก 1 คัน รวมถึงรถจักรยาน สีขาวที่ขับไปก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางก่อนนำตัวมาสอบสวนที่สน.ดอนเมือง
นายนิรุต ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพขายของตามตลาดนัด และชอบปั่นจักรยานไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อออกกำลังกาย ซึ่งก็พอรู้ว่ารถรุ่นไหนเป็นรถในตำนานที่หายาก หนือราคาแพง กระทั้งมาเจอรถจักรยานสีแดง ซึ่งเป็นรุ่นในตำนาน จอดอยู่หน้าบ้านใกล้กับตลาดนัดวงเวียนปิ่นเจริญ 2 ซึ่งตนเองอยากจะได้แต่ด้วยราคาที่ซื้อขายกันหลักหมื่น ไม่มีเงินที่จะไปซื้อหามา จึงตัดสินใจก่อเหตุ ต่อมาก็มาพบรถคันสีเขียวซึ่งเป็นตัวท็อปอีกตัวจอดใต้แฟลตประทวน 6 แล้วรู้สึกชอบ แต่ตอนนั้นยังมีคนเยอะจึงกลับบ้านก่อน และปั่นจักรยานของตนเอง กลับมาลงมือช่วงกลางดึกโดยจอดรถตัวเองไว้ แล้วนำรถของผู้เสียหายที่จอดไว้โดยไม่ได้ล็อก กลับมาทำการเปลี่ยนอะไหล่ที่ตนเองพอจะมีใส่ตามความชอบ ก่อนมาถูกจับยอมรับว่าไม่ได้คิดจะเอาไปขายแต่ด้วยความชอบจึงทำให้เกิดอารมชั่ววูบ
ด้านนายชัยวัฒน์ โคตุธา อายุ 65 ปี เจ้าของรถจักรยานสีแดง ระบุว่า รถที่ถูกขโมยไปเป็นยี่ห้อ precision sports ของญี่ปุ่น ซึ่งซื้อมือ 2 ในราคา 12000 บาท มานานกว่า 7 ปี ใช้ซื้อของ ออกกำลังกาย โดยปกติจะจอดล็อกโซ่ที่ล้อหลังไว้กับโครงตู้เหล็กหน้าบ้าน กระทั้งช่วงเช้าวันที่ 29 มิ.ย. ตื่นมาพบว่ารถจักรยานได้หายไปเหลือแต่ล้อที่ล็อกติดกับตู้ไว้จึงเข้าแจ้งความ หลักทราบข่าวว่าจับคนร้ายได้ตนเองรู้สึกดีใจ และรู้สึกอุ่นใจที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เอาจริงเอาจังกับการจับคนร้าย และอยากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมืองทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายนิรุต ซึ่งคาดว่าน่าจะก่อเหตุมามากกว่านี้ และจากการข่าวยังพบว่านายนิรุต มีความรู้เรื่องอะไหล่ และส่วนประกอบของจักรยานเป็นอย่างดี รวมถึงอุปกรณ์และอะไหล่ที่พบเป็นอะไหล่หลายชิ้นมีราคาแพง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ได้รับรายงานในพื้นที่มีรถจักรยานหายอยู่บ่อยครั้ง ทั้งในพื้นที่หมู่บ้าน และในพื้นที่แฟลตทหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถรุ่นที่หายาก มีราคาแพง เมื่อได้รับข้อมูลฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ได้ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะที่คนร้ายใช้ โดยเจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายสวมชุดนักปั่นจักรยาน กำลังปั่นจักรยานเสือหมอบสีแดง ไปดูรถผู้เสียหายที่จอดไว้บริเวณบ้านพักใกล้วงเวียนปิ่นเจริญ 2 ก่อนจะกลับมาขับรถจักรยานยนต์กลับไปขนรถจักรยานของกลางกลับมาที่พักในซอยช่างอากาศอุทิศ 5 แยก 4 กระทั้งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. เจ้าหน้าที่พบชายลักษณะตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิดปั่นจักรยานกลับเข้ามาที่บ้านพักในซ.ช่างอากาศอุทิศ 5 แยก4 จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ โดยนายนิรุต ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงและ ยังยอมรับว่ามีรถจักรยานของกลางที่ลักมาอีก 1 คัน รวมถึงรถจักรยาน สีขาวที่ขับไปก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางก่อนนำตัวมาสอบสวนที่สน.ดอนเมือง
นายนิรุต ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพขายของตามตลาดนัด และชอบปั่นจักรยานไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อออกกำลังกาย ซึ่งก็พอรู้ว่ารถรุ่นไหนเป็นรถในตำนานที่หายาก หนือราคาแพง กระทั้งมาเจอรถจักรยานสีแดง ซึ่งเป็นรุ่นในตำนาน จอดอยู่หน้าบ้านใกล้กับตลาดนัดวงเวียนปิ่นเจริญ 2 ซึ่งตนเองอยากจะได้แต่ด้วยราคาที่ซื้อขายกันหลักหมื่น ไม่มีเงินที่จะไปซื้อหามา จึงตัดสินใจก่อเหตุ ต่อมาก็มาพบรถคันสีเขียวซึ่งเป็นตัวท็อปอีกตัวจอดใต้แฟลตประทวน 6 แล้วรู้สึกชอบ แต่ตอนนั้นยังมีคนเยอะจึงกลับบ้านก่อน และปั่นจักรยานของตนเอง กลับมาลงมือช่วงกลางดึกโดยจอดรถตัวเองไว้ แล้วนำรถของผู้เสียหายที่จอดไว้โดยไม่ได้ล็อก กลับมาทำการเปลี่ยนอะไหล่ที่ตนเองพอจะมีใส่ตามความชอบ ก่อนมาถูกจับยอมรับว่าไม่ได้คิดจะเอาไปขายแต่ด้วยความชอบจึงทำให้เกิดอารมชั่ววูบ
ด้านนายชัยวัฒน์ โคตุธา อายุ 65 ปี เจ้าของรถจักรยานสีแดง ระบุว่า รถที่ถูกขโมยไปเป็นยี่ห้อ precision sports ของญี่ปุ่น ซึ่งซื้อมือ 2 ในราคา 12000 บาท มานานกว่า 7 ปี ใช้ซื้อของ ออกกำลังกาย โดยปกติจะจอดล็อกโซ่ที่ล้อหลังไว้กับโครงตู้เหล็กหน้าบ้าน กระทั้งช่วงเช้าวันที่ 29 มิ.ย. ตื่นมาพบว่ารถจักรยานได้หายไปเหลือแต่ล้อที่ล็อกติดกับตู้ไว้จึงเข้าแจ้งความ หลักทราบข่าวว่าจับคนร้ายได้ตนเองรู้สึกดีใจ และรู้สึกอุ่นใจที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เอาจริงเอาจังกับการจับคนร้าย และอยากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมืองทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายนิรุต ซึ่งคาดว่าน่าจะก่อเหตุมามากกว่านี้ และจากการข่าวยังพบว่านายนิรุต มีความรู้เรื่องอะไหล่ และส่วนประกอบของจักรยานเป็นอย่างดี รวมถึงอุปกรณ์และอะไหล่ที่พบเป็นอะไหล่หลายชิ้นมีราคาแพง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป