เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุม ได้มีมาตรการให้หน่วยงานที่ดูแลด้านการบริหารจัดการน้ำ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัย และภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาดำเนินการจัดทำแผนงานโครงการที่มีความพร้อมสอดคล้องกับพื้นที่เฝ้าระวัง และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ พร้อมทั้งจัดลำดับความสำคัญตามแนวทางข้อเสนอโครงการสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย ปี 2564 และบรรเทาปัญหาภัยแล้งปี 2564/2565 โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ปรับแผนให้สอดคล้อง ในการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร การเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อน และอ่างเก็บน้ำ ให้ได้มีปริมาณน้ำมากที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีน้ำต้นทุนไว้สำรองใช้ในฤดูแล้งต่อไป
สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ตาก ลำปาง ขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา เขื่อนแม่มอก อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด และอ่างเก็บน้ำคลองระบม
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 4 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่
-หน่วยฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ชัยนาท จ.อุทัยธานี จ.นครสวรรค์
-หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา
-หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี ช่วยพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ
-หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม
ทั้งนี้ อีก 8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ขอติดตามสภาพอากาศต่อเนื่องทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันที ส่วนอีก 1 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง คือ หน่วยฯ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสังเกตอาการไม่พึงประสงค์ 48 ชม. หลังจากการฉีดวัคซีนโควิด–19 ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100