GBS ประเมินหุ้นไทยมีโอกาสพักฐาน จากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายพื้นที่จนต้องปิดแคมป์คนงานก่อสร้างนาน 30 วัน บวกกับแผนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า แนะจับตาเศรษฐกิจไทย หลัง ธปท.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและอาจจะยาวไปถึงไตรมาส 1/2566 จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ระดับ 1,550-1,600 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนใน 8 หุ้นเด่นได้อานิสงส์ตัวเลขส่งออกพุ่งต่อ ชู AH- SAT- NER –STA- KCE- HANA –SMT- ASIAN น่าสนใจ น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสพักฐาน จากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นจากระดับ 3 พันรายไปแตะระดับ 5 พันราย ขณะที่การฉีดวัคซีนยังล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ ประกอบกับการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างนาน 30 วันคาดอาจจะส่งผลให้มีงานก่อสร้างล่าช้า กระทบการรับรู้รายได้ของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และในอนาคตคาดจะมีผลกระทบกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จากการก่อสร้างล่าช้าและโอนล่าช้า โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าทิศทางของเศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและอาจจะต้องรอถึงไตรมาส 1/2566 กว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เท่ากับในระดับที่ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นจึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ระดับ 1,550-1,600 จุด ขณะเดียวกันต้องจับตาปัจจัยต่างประเทศที่ทยอยรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่อง อาทิ อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย., สหรัฐรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย., ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนมิ.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS), สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค. และสต๊อกน้ำมัน, การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสหารือร่วมกับรัสเซียเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน จีนรายงาน PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากไฉชิน สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ทั้งนี้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขการส่งออกที่มีแนวโน้มการเติบโตในเดือนมิ.ย.ต่อเนื่องจากเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน และรับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่าในรอบ 13 เดือน โดยหุ้นที่คาดว่ามีความน่าสนใจต่อการลงทุน ได้แก่ AH- SAT- NER –STA- KCE- HANA –SMT- ASIAN ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 13$/Oz ไปแตะ 1,777 $/Oz โดยทองคำรีบาวด์ขึ้นจากการปรับตัวลงในสัปดาห์ก่อน โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ 1.36% นอกจากนี้ประธานเฟดยังไม่วิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อทำให้ยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้ โดยเฟดจะรอให้มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อก่อนการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยทองคำปรับตัวลงสวนทางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจากความผันผวนของราคาทองคำฝ่ายวิจัยประมาณกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ 1,740-1,800$/Oz โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวกลับมาที่แนวรับ 1,740-1750$/Oz เนื่องจากราคาปรับตัวลงตอบรับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 66 ไปแล้ว โดยแนะนำให้เล่นฝั่ง Short เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการลดวงเงิน QE ยังคงเป็นปัจจัยกดดันในระยะกลาง