จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรปราการ ยังยอดผู้ติดเชื้อสูงเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ประกาศใช้ยุทธศาสตร์ขนมครก เข้ามาแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยการคัดแยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกมารับการรักษา ส่วนประชาชนรอบข้างซึ่งเป็นผู้เสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำนำออกมารับการฉีดวัคซีนทั้งหมดก่อน เพื่อจำกัดวงการแพร่ของเชื้อโควิด 19 โดยเริ่มดำเนินการในจุดที่สุ่มเสี่ยงสูง ตลาดท่าเรือวิบูลย์ศรี ตลาดราชา ตลาดบางฆ้อง และตลาดปากน้ำ ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากและมีการคัดแยกระหว่างผู้ติดเชื้อออกจากผู้เสียงสูงและเสี่ยงต่ำที่อยู่รอบข้าง โดยนำผู้เสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำที่คัดแยกออกมากว่า 1,200 คน เข้ารับการฉีดวัคซีนเร่งด่วน ที่จุดฉีดวัคซีน โควิด 19 หอชมเมือง โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อเป็นการจำกัดวงการแพร่กระจายเชื้อโควิดหรือเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดของโควิด 19 ลง และจะมีการขยายยุทธศาสตร์ขนมครกเข้าไปครอบคลุมทุกพื้นที่ ที่มีการพบผู้ติดเชื้อเกิน 5 เปอร์เซ็นในจำนวนคนทั้งหมด ส่วนแนวทางป้องกัน นอกจากยุทธศาสตร์ขนมครกแล้ว เรายังมีแผนที่จะได้วัคซีนนอกจากวัคซีนปกติที่ทางกรมควบคุมโรคจัดสรรมาให้ 3 เดือนยอด 1,350,000 โดส ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 เปอร์เซนแล้วก็จะมีส่วนของประกันสังคม กระทรวงแรงงานก็จะได้มาอีก 120,000 โดส นอกเหนือจากนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ดำเนินการติดต่อจัดซื้อวัคซีนเข้ามาน่าจะไม่น้อยกว่าเก้าแสนโดส เพื่อมาฉีดให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการ ได้ไม่น้อยกว่า 450,000 คน รวม 2 ยอดก็คิดว่าโอกาสที่เราจะได้เต็มพื้นที่ และถ้าเราได้วัคซีนจากทุกส่วนที่เข้ามา แม้วัคซีนจากส่วนกลางที่จะเข้ามาไม่ทันเราก็จะเติมเต็มโดยวัคซีนของท้องถิ่น ซึ่งเรามีการเตรียมจุดฉีด เตรียมบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครับและภาคเอกชนเราได้มีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วทั้ง 26 จุดที่จะฉีดและเพิ่มเติมในโอกาสที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น ในตอนนี้เราก็ตรึงในการที่จะเดินทางข้ามจังหวัดและมาตรึงในเรื่องการข้ามไซค์งานด้วย และปัญหาที่เราพบที่ผ่านมาคือคนเหล่านี้ได้นำโรคเข้ามาในไซค์งานนั้นและมาติดในไซค์งานอื่น ๆ ก็ได้ให้ทางสวัสดิการคุ้มครองแรงงานมาตรึงโดยเฉพาะมีการจัดตั้งชุดศูนย์ปฏิบัติการทั้งระดับอำเภอระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและระดับตำบลซึ่งมีตั้งอยู่แล้วแต่ให้สอดแทรกโดยจัดหางานและตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปด้วยเพราะจะมีอำนาจนอกเหนือจากกฎหมายของแรงงาน ก็จะมีอำนาจในการควบคุมโรค ศวพ.มีอำนาจในการควบคุมโรคทางแรงงานก็จะมีอำนาจในแรงงาน โดยใช้กฎหมายเดิมเพิ่มเติมคือเข้มงวดมากขึ้น