โอกาสที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะกลายเป็น นักโทษชายในซังเต มีเกิดขึ้นหรือไม่?

คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร. วิวัฒน์ เศรษฐช่วย ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปกว่าห้าเดือนที่ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” พ่ายแพ้การเลือกตั้งแล้วก็ตาม แต่กลับปรากฏว่า อิทธิพลการเป็นจอมเผด็จการในพรรครีพับลิกันยังคงมีอยู่ ดั่งจะเห็นได้จากผลการหยั่งเสียงของสำนักโพล “Morning Consult” เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมานี้ว่าสมาชิกที่สังกัดพรรครีพับลิกันถึง 59% ต่างต้องการให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กลับมามีบทบาทสำคัญในพรรคต่อไป และนอกเหนือจากนั้นแล้วสำนักหยั่งเสียงของ “มหาวิทยาลัย Quinnipiac” ซึ่งเป็นโพลที่ได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างสูง ก็ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2021 ด้วยเช่นกันว่า สมาชิกในค่ายพรรครีพับลิกันถึง 66% ยินดีและต้องการจะสนับสนุนให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ลงสมัครเลือกตั้งช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 อีกครั้งหนึ่ง!!! และถึงแม้ว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จะยังคงได้รับความชื่นชมนิยมยินดีจากสมาชิกของพรรครีพับลิกันเป็นอย่างมากก็ตามที แต่ต้องไม่ลืมด้วยว่า เขายังคงมีคดีอาญาและคดีแพ่งติดตัวอยู่เกือบ 30 คดี (แหล่งข้อมูล justsecurity.org ของวันที่ June 12, 2021 ในหัวข้อเรื่อง Litigation Tracker: Pending Criminal and Civil Cases Against Donald Trump) ในเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงมีคดีความติดตัวอยู่เยี่ยงนี้ ฉะนั้นประเด็นจึงอยู่ที่ว่า เขาสามารถจะหลีกเลี่ยงความผิดทางกฏหมายไปได้นานสักเพียงใด? สำหรับคดีอาญามากมายหลายคดีความของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ นับเป็นประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐอเมริกาครั้งแปลกใหม่ ที่แม้กระทั่ง “แมรี ทรัมป์”หลานสาวแท้ๆก็ยังออกมาฟ้องเรียกเงินหลายล้านดอลล่าร์ในข้อหาฉ้อโกงจากข้อพิพาทเกี่ยวกับมรดก สำหรับคดีอาญาที่ถือว่าร้ายแรงอีกคดีหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ประจำวันก็คือ เรื่องราวเกี่ยวกับภาษีที่มีความสำคัญต่อการสอบสวนทางคดีอาญา ทั้งนี้ “ไซรัส แวนซ์” อัยการเขต แห่งนครแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก เริ่มทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเกี่ยวกับภาษีธุรกิจในครอบครัวของประธานาธิบดีทรัมป์ เรื่อยมาตั้งแต่สมัยที่เขายังอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี โดยอัยการแวนซ์ พากเพียรพยายามหาหลักฐานในการจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อปิดปากเกี่ยวกับอดีตดาวโป๊ 2 คนที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเขากำลังออกหาเสียงในปี 2016 อย่างไรก็ตามการที่อัยการไซรัส แวนซ์ ยึดเอาหลักฐานทั้งหมดมาจาก “ไมเคิล โคเฮน” อดีตทนายความส่วนตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีส่วนช่วยปกปิดข่าว และยังเป็นตัวกลางจ่ายเงินปิดปากให้กับหญิงทั้งสองคนนี้ จนโคเฮนต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาให้การเท็จ และถูกจำคุกถึงสามปี ส่วนกุญแจดอกสำคัญที่อัยการไซรัส แวนซ์จะใช้ไขเข้าไปสู่เส้นทางการเดินเงินของประธานาธิบดีทรัมป์และธุรกิจของเขาได้เป็นอย่างดีนั้น อัยการแวนซ์มุ่งตรงไปที่ “อัลเลน ไวลส์เซ็นเบิร์ก” ประธานด้านการเงินในธุรกิจ “ Trump Organization” ผู้มีหน้าที่เฝ้าประตูขุมทรัพย์ด้านธุรกิจของทั้งบิดาและประธานาธิบดีทรัมป์มาอย่างยาวนานกว่าสี่สิบปี!!! เป็นที่น่าสังเกตว่ามีข่าวจากหลายๆกระแสได้เผยแพร่ออกมาในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ว่า “อัลเลน ไวลส์เซ็นเบิร์ก” อาจจะถูกตั้งข้อหาว่า “โกงภาษีรัฐ” โดยอัยการแวนซ์กำลังเจรจาต่อรองยื่นหมูยื่นแมว เพื่อแลกเปลี่ยนอิสรภาพกับข้อมูลที่เขามีอยู่!!! และถือได้ว่าคดีนี้คืบหน้าไปได้ค่อนข้างรวดเร็ว โดยวันที่ 4 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมาไม่นานนี้หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ได้รายงานว่า “นายเจฟฟ์ แมคคอนนีย์” รองประธานอาวุโสผู้ควบคุม Trump Organization ได้ออกมาปรากฏตัวต่อคณะลูกขุนพิเศษ และได้เปิดปากสารภาพข้อมูลไปแล้วอย่างมากมาย ที่อาจจะสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์และบุคคลอีกหลายๆคนในแวดวงของเขาก็เป็นได้ และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2021 นี้ ทางศาลสูงสุดเพิ่งอนุญาตให้สำนักงานของอัยการไซรัส แวนซ์ สามารถเข้าไปตรวจค้นหาหลักฐานการเสียภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ อนึ่งการที่อัยการไซรัส แวนซ์ มีหลักฐานที่สามารถจะโยงใยผูกมัดมากมายหลายชิ้นแล้วก็ตาม แต่การที่จะเอาผิดต่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้นั้น มิใช่เรื่องหมูๆง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก สืบเนื่องมาจากในชีวิตที่ผ่านมาประสบการณ์ด้านการต่อสู้คดีความทั้งการเป็นโจทย์และเป็นจำเลยของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มีมากกว่า 4,000 คดี ส่วนการลงแข่งขันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2024 ยังคงเป็นแค่การคาดการณ์ หรืออีกนัยหนึ่งเขาอาจจะต้องการทำตัวให้เป็นข่าว เพื่อต้องการหาเงินเก็บเข้ากระเป๋าเอาไว้ใช้เป็นค่าทนายในคดีความเกือบ 30 คดี และการที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะลงแข่งขันเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งนั้น เขาจะต้องเก็บเอาไปนอนคิดหลายๆตลบ เพราะหากพบกับความพ่ายแพ้ในครั้งที่สองคงยากที่เขาสามารถจะทำใจได้ ทั้งนี้บุคคลที่ประธานาธิบดีทรัมป์เกรงกลัวมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส” เพราะเธอมีความสมบูรณ์ด้านการทำงานแบบกัดไม่ปล่อย โดยงานส่วนใหญ่ของเธอคือการไล่ต้อนอาชญากรให้จนมุม!!! และหากเราจะสมมุติกันว่า “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ยอมหลีกทางให้รองประธานาธิบดีแฮร์ริสลงแข่งขันเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2024 เธอก็จะกลายเป็นบุคคลผู้ที่กำหนดชะตากรรมทางการเมืองของประธานาธิบดีทรัมป์ได้อย่างมีประสิทธภาพมากที่สุด กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการที่ขณะนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังหัวหมุนหมกหมุ่นเผชิญอยู่กับการฟ้องร้อง โดยทีมกฎหมายของเขากำลังงัดเอาข้อกล่าวอ้างมาเป็นหลักฐานต่อสู้แก้ต่างคดี แต่อย่างไรก็ตามสื่อต่างๆกำลังมุ่งโจมตีประโคมข่าวกันอย่างเอิกเกริกว่า การที่เขาสร้างปัญหา สร้างความวุ่นวาย และสร้างความแตกแยก และทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างซ้ำๆซากๆเขาคงหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะได้รับสมญานามใหม่ว่า “นักโทษชายโดนัลด์ ทรัมป์” ละครับ