"วิปรัฐบาล" วอน “พรเพชร” เด็ดขาดไม่ปล่อย ส.ส. - ส.ว. เปิดสงครามน้ำลาย ด่าว่าเสียดสี เปลืองเวลาหวั่นทำประชุมล่ม ด้าน “ณัฏฐนนท์” ชี้ รธน.ฉบับมีชัย ทำส.ส. – ส.ว. ตีกันเละ วอนรัฐสภาผ่านร่างแก้ไขพรรคร่วมรัฐบาล เป็นความหวังให้คนจน
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ ต่อเป็นวันที่ 2 โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ขอหารือว่า อยากให้ประธานฯ ทำหน้าที่ควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในกรอบ เพราะเมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.) ในช่วงการอภิปรายเกิดการปะทะกัน และเริ่มหนักขึ้น บางช่วงมีการพูดเสียดสี บอกว่า ส.ส. เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ ส.ว.นั้น ประธานฯ ไม่มีการพูดตัดบท ทั้งที่ตนพยายามบอกสมาชิกรัฐสภาให้อภิปรายให้อยู่ในกรอบ วันนี้จึงอาจทำให้สมาชิกเกิดอารมณ์คั่งค้าง ตนจึงอยากให้เราคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ส่วนที่ประธานฯ ได้ชี้แจงเวลาอภิปรายที่เหลือของแต่ละฝ่าย ส่วนนี้ก็เป็นปัญหา เพราะแต่ละฝ่ายส่งรายชื่อกันทีละคนสองคน เหมือนการคุมเชิงกัน ตนอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันใช้เวลาที่มีค่า เพราะเราทราบกันว่าเวลา 16.00 น. เราต้องเริ่มนับคะแนน และต้องสิ้นสุดไม่เกิน 22.00 น. แต่หากดึกกว่านั้น องค์ประชุมไม่ครบจะเป็นอย่างไร จึงอยากให้ประธานฯ ดูแลองค์ประชุมเคร่งครัด
จากนั้น นายพรเพชร ชี้แจงว่า กรณีที่ตนไม่ค่อยห้ามการโต้เถียง และปล่อยให้พูดเสียดสีนั้น หากตนดำเนินการ สมาชิกฯก็จะไม่ฟัง จึงอาจเป็นการเสียเวลา หากตนไปขัดจังหวะก็จะลุกขึ้นมาอีกหลายครั้ง ส่วนไหนที่ไม่เกินเลยกันมากตนก็ปล่อย ส่วนเรื่องการเสนอชื่อขึ้นมาว่าใครขึ้นอภิปรายก่อนหลัง อย่างวันนี้ ส.ส. ฝ่ายค้านก็ยื่นมา 1 คน ฝ่ายรัฐบาลก็มีหลายคน และส.ว. ยื่นมา 3 คน แต่เนื่องจาก ส.ว. เหลือหลายคน ดังนั้น ในบางช่วงตนจะให้ ส.ว. พูด 2 คน และสลับกับฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ไม่เช่นนั้นหากครบเวลาทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว จะต้องฟังแต่ ส.ว.พูด ตนไม่ได้ลำเอียงหรือไม่เป็นกลาง
จากนั้น เวลา 10.10 น. นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะ รวม 21 คน ช่วยกันทำคลอดรัฐธรรมนูญ 60 กระทั่งมีลูก 2 คน วันนี้ทะเลาะกันทุกครั้ง ทั้งคำพูด และการแสดงออก พูดแบบชาวบ้านเรียกว่าตีกันเละ ลูกคนคนโต คือ ส.ว. 250 คน มาจากการแต่งตั้ง มีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรี นี่คือสิ่งที่กรธ. ฝากเป็นบาดแผลให้กับส.ว. ลูกคนเล็ก คือ ส.ส. 500 คน แต่พ่อแม่รักไม่เท่ากันปัญหาจึงเกิดขึ้น หลายคนบอกว่าการแก้ปัญหาของเรื่องนี้ คือการแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งมีหลายฉายาทั้งรัฐธรรมนูญปราบโกง รัฐธรรมนูญคสช. รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ และรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย วันนี้ส.ส.ได้เสนอแก้ไขแล้ว 13 ฉบับ แต่สิ่งที่เราต้องพิจารณาคือประชาชนได้อะไรจากการแก้ไข ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ขอแก้ไขมาตรา 55/1 กำหนดให้รัฐต้องจัดให้ประชาชนได้รับรายได้พื้นฐานอันจำเป็นต่อการดำรงชีพทั่วถึง เราเรียกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับกินได้ เราไม่ได้แก้เพื่อตัวเอง แต่เราแก้เพื่อคนจนเพื่อคนหาเช้ากินค่ำ เป็นรัฐธรรมนูญยาใจคนจน ขอให้เพื่อนสมาชิกรัฐสภา สนับสนุนร่างแก้ไขฉบับนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้คนจน