เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโญ รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ สว.กก.6 บก.ป. ร.ต.อ.พร้อมวุฒิ พร้อมพูล รอง สว.กก.6 บก.ป. ร.ต.อ.ไตรรงค์ หน่วยตุ้ย รอง สว.กก.6 บก.ป. ร.ต.อ.วุฒิพงศ์ ทองมาก รอง สว.บก.ป.
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ร่วมกันจับกุมนายสาอารี หรือโย อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 100/2552 ลง 1 พ.ค.52 ในข้อหาว่า จับกุมเพื่อปฏิบัติตามผลคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์พิพากษาในข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้จำเลยจำคุกตลอดชีวิต ได้ที่บ้าน ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย.47 นายสาอารี (ผู้ต้องหา)ร่วมกับพวก 5 คน ได้วางแผนร่วมกันฆ่านายณัฐวุฒิ และนายมะดารี โดยได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายณัฐวุฒิ ถึงแก่ความตายใช้อาวุธมีดแทงนายมะดารี ได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ริมถนน หมู่ที่ 2 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 5 ราย มาดำเนินคดีแล้ว โดยทั้งหมดกระทำผิดในข้อหาว่า ร่วมกันพาอาวุธปืนปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในถนน และชุมชน ในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ, ร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ต่อมาศาลจังหวัดนราธิวาส ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนายสาอารี และพวกอีก 3 คน พร้อมทั้งได้ขังจำเลยอีกหนึ่งคนไว้ก่อนแต่ท้ายที่สุดศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาลับหลังให้จำเลยกับพวกทั้งหมดจำคุกตลอดชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี โดยจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ประเทศมาเลเซีย นานกว่า 10 ปี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางกลับมาเยี่ยมมารดาที่บ้านบริเวณ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบนายสาอารีจึงทำการจับกุมนำตัวส่งศาล จ.นราธิวาส ดำเนินคดี
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ร่วมกันจับกุมนายสาอารี หรือโย อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 100/2552 ลง 1 พ.ค.52 ในข้อหาว่า จับกุมเพื่อปฏิบัติตามผลคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์พิพากษาในข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้จำเลยจำคุกตลอดชีวิต ได้ที่บ้าน ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย.47 นายสาอารี (ผู้ต้องหา)ร่วมกับพวก 5 คน ได้วางแผนร่วมกันฆ่านายณัฐวุฒิ และนายมะดารี โดยได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายณัฐวุฒิ ถึงแก่ความตายใช้อาวุธมีดแทงนายมะดารี ได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ริมถนน หมู่ที่ 2 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 5 ราย มาดำเนินคดีแล้ว โดยทั้งหมดกระทำผิดในข้อหาว่า ร่วมกันพาอาวุธปืนปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในถนน และชุมชน ในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ, ร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ต่อมาศาลจังหวัดนราธิวาส ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนายสาอารี และพวกอีก 3 คน พร้อมทั้งได้ขังจำเลยอีกหนึ่งคนไว้ก่อนแต่ท้ายที่สุดศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาลับหลังให้จำเลยกับพวกทั้งหมดจำคุกตลอดชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี โดยจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ประเทศมาเลเซีย นานกว่า 10 ปี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางกลับมาเยี่ยมมารดาที่บ้านบริเวณ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบนายสาอารีจึงทำการจับกุมนำตัวส่งศาล จ.นราธิวาส ดำเนินคดี