เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่พรรคเล็กเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบอาจทำให้ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามพรรคเล็ก ว่าทำไมเขาถึงเข้าใจว่า เป็นการกำจัดพรรคเล็ก คงเป็นอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ระบบการเลือกตั้งในโลกมีหลายแบบ ไม่มีระบบใดที่จะออกแบบมาเพื่อที่จะตั้งใจกลั่นแกล้งใครทั้งนั้น เพราะเป็นการดีไซน์วิธีออกมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐธรรมนูญ 60 ออกแบบมาเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองใดใหญ่เกินไป และต้องการให้มีพรรคการเมืองจำนวนมากใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็พูดกันอย่างนั้น นินทากันอย่างนั้น แต่เจตนารมณ์เขาอาจจะไม่ต้องการอย่างนั้นก็ได้
เมื่อถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐต้องการให้แก้ไขเพื่อให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รวมทั้งพรรคที่จัดส่งบัญชีรายชื่อได้นั้นต้องส่ง ส.ส. เขตให้ได้ 100 เขต เหมือนเป็นการปิดกั้นพรรคการเมืองขนาดเล็กใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้า และกล่าวว่า อาจจะมีส่วนก็ได้ แต่คงไม่ใช่เจตนาใหญ่ไปทั้งหมด เป็นเรื่องของความเคยชินที่เราชินแบบไหนมากกว่า
“สรุปว่า ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวของมันทั้งหมด อย่างรธน.ปี 60 ใช้ระบบเลือกตั้งที่ไม่ต้องการให้คะแนนทุกคะแนนเสียงตกน้ำ เขาเคารพรูปแบบนั้น เมื่อคิดอย่างนั้นจึงออกมาเป็นเช่นนี้ และเมื่อออกมาเป็นเช่นนี้จึงเกิดปัญหาขึ้นมาอีก และในขณะเดียวกันหากพรรคเล็กมากเกินไปก็เป็นผลเสียอีกแบบหนึ่ง สรุปจึงมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น แต่หากพรรคเล็กติดใจในประเด็นดังกล่าวก็สามารถยื่น ศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อพรรคเล็ก” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าและฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรธน. ยอมรับว่าอาจต้องปรับเนื้อหาการแก้ไขมาตรา 144, ม.185 เนื่องจากถูกวิจารณ์ว่าทำให้กลไกการปราบปรามทุจริตของรธน. อ่อนแอลง นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมโมทนาสาธุด้วย ยืนยันว่า ของเดิมออกแบบมาในหลักการที่ดี ถ้าคิดว่า แก้ไขแล้ว ชัดเจน รัดกุมมากขึ้นก็โอเค แต่ถ้าแก้แล้วมันแย่กว่าเดิมก็กรุณาอย่าแก้” รองนายกฯ กล่าว