วันที่ 23 มิ.ย.64 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยทวีความรุนแรงมากขึ้น พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้น มีคสัสเตอร์ใหม่ๆทั่วประเทศ สะท้อนถึงความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการบริหารสถานการณ์ ในขณะนี้จำนวนผู้ป่วย ล้นระบบการรักษา ทั้งจำนวนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้จำนวนเตียงรับผู้ป่วย ไม่สามารถที่จะรองรับได้ บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านทำงานหนักมาก รัฐบาลเลือกโยนภาระทั้งหมดไปให้บุคลากรทางแพทย์ แต่ไม่เพิ่มประสิทธิภาพและเครื่องมือในการรักษาชีวิตคน ที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐบาลไม่ทำงานเชิงรุก ทั้งการตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีน รัฐบาลล้มเหลวในการป้องกันการติดเชื้อของประชาชน
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่พูดความจริงกับประชาชนกับปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งวัคซีนทางเลือกสำหรับคนไทยถูกกีดกันและปิดกั้นในการนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นจากความต้องการของโรงพยาบาล หรือ หน่วยงานเอกชน รัฐบาลไม่เคยมีแผนงานที่ชัดเจนในการบริหารวัคซีน การจัดหาวัคซีนล้มเหลว บางยี่ห้อรัฐบาลสั่งซื้อจำนวนกว่า 47 ล้านโดส ทั้งๆที่มีประสิทธิภาพต่ำ แต่มีราคาแพงที่สุดของวัคซีนที่ขายกันทั่วโลก รัฐบาลอ้างว่าเป็นวัคซีนเสริมเท่านั้น แต่กลับสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก แต่วัคซีนอื่นที่มีประสิทธิภาพมากว่า ราคาถูกกว่า รัฐไม่ให้ความสำคัญและปิดประตูนำเข้าวัคซีนทางเลือกให้ประชาชน
“ทั้งหมดนี้คือผลพวงของระบอบประยุทธ์ ที่คิดถึงแต่ตนเอง มุ่งแต่สืบทอดอำนาจยาวนาน ไม่รับผิดชอบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลปล่อยให้คนป่วยตายที่บ้านได้อย่างไร มันหมายถึงการขาดความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการในทุกๆเรื่อง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความลำบากในการใช้ชีวิต ระบอบประยุทธ์ กำลังกัดกินประเทศไทยเป็นระบอบที่ทำลายทั้งระบบเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขไทยและประเทศไทยอย่างยับเยินที่สุด”นพ.ชลน่าน กล่าว