“สิงห์ศึก” ขอบคุณ “ไพบูลย์” ยอมถอย แก้มาตรา 144-185 พูดชัดหากไม่เป็นตามขอให้ส.ว.คว่ำวาระ 3 ได้ ทำคลายกังวลไม่ต้องเป็นแพะ ชี้ปมปิดสวิตช์ ส.ว. ต้องถามปชช.ก่อน
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เวลา 09.15 น. ที่รัฐสภา พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวถึงจุดยืนการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ ซึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาในวันนี้ (22 มิ.ย.) เป็นวันแรก ว่า ส.ว.ได้ศึกษาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อน ซึ่งการแสดงความเห็นของส.ว.ก่อนหน้านี้ ถือเป็นความเห็นส่วนตัวของแต่ละท่าน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนวานนี้ (22 มิ.ย.) ภายหลังจากที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้เสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้พูดคุยกับส.ว. ได้ยอมถอยในส่วนของมาตรา 144 และมาตรา 185 โดยการพิจารณาวาระ 2 ในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จะเสนอให้กมธ.แก้ไขกลับไปใช้ตามหลักการเดิมของรัฐธรรมนูญ 60 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และขอขอบคุณนายไพบูลย์
“ต้องขอขอบคุณท่าน ที่เมื่อพูดคุยกับส.ว.แล้ว ท่านได้พูดว่าให้ส.ว.ช่วยรับไปแก้ไขในวาระ 2 เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 หากไม่เป็นไปตามที่พูดคุยกัน จะยอมให้ส.ว.ล้มในวาระ 3 ทำให้ในขณะนี้ส.ว.คลายความกังวล เพราะมีความชัดเจนว่าส.ว.จะได้ไม่เป็นแพะรับบาป”พล.อ.สิงห์ศึก กล่าว
เมื่อถามถึงแนวทางการลงมติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า มาตรา 272 มาตามประชามติของประชาชน ดังนั้น การจะแก้ไขต้องถามประชาชนก่อน และต้องดูว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตามส.ว.ไม่มีความหนักใจ เพราะได้พิจารณากลั่นกรองร่างรัฐธรรมนูญทุกร่างแล้ว เราเป็นตัวแทนประชาชนมีวุฒิภาวะที่จะตัดสินใจ อะไรที่ถูกที่ดีมีประโยชน์ก็รับได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของส.ว.แต่ละท่าน
เมื่อถามว่าส.ว.จะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตัดสินใจแทนคนอื่นได้ แต่เมื่อแก้ไขรายมาตราได้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อันนั้นเราเห็นด้วย