รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธาน ได้ใช้เวลาหารือกันกรณีที่ศบค.มีมติเปิดรับนักท่องเที่ยวนำร่องที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.ค. หรือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กันนานเป็นพิเศษ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งเรื่องที่มีหลายภาคส่วนไม่เห็นด้วยกับการเปิดในวันที่ 1 ก.ค.มาถามความเห็นของ ครม. ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายความมั่นคงมีความเป็นห่วง เนื่องจากขณะนี้เกิดการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ของภาคใต้ โดยเฉพาะคลัสเตอร์ที่ จ.สงขลาและยะลา ที่มีผู้ติดเชื้อเกือบสามร้อยรายต่อวัน จึงอยากให้ทางจังหวัดคิดให้รอบคอบและเบ็ดเสร็จ ถ้าเกิดคลัสเตอร์ใหม่จะทำอย่างไร ซึ่งอยากให้ขยายเวลาเปิดจากวันที่ 1 ก.ค.ไปก่อนได้หรือไม่ อย่าไปมัดตัวเองว่าต้องเป็นวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายืนยันว่าต้องเดินหน้าเปิดให้ได้ตามแพลนที่วางไว้ หากไม่เปิดจะทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่กว่านี้ เพราะเศรษฐกิจในประเทศมาจากภาคท่องเที่ยว ซึ่งในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป ว่าจะเปิดตามที่กำหนดหรือเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากมองว่าพื้นที่ จ.ภูเก็ตไม่ใช่พื้นที่ระบาด แต่ต้องประเมินสถานการณ์ประกอบการพิจารณาไปด้วย โดยในวันที่ 25 มิ.ย.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข จะลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริง จากนั้นนายกฯจะเดินทางไปในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำในที่ประชุมว่า เรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจต้องไปคู่กัน อย่างไรต้องเดินหน้าเปิดให้ได้ รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมมีการติดตามความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีน โดยนายกฯ ได้สอบถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ว่าปัจจุบันสามารถฉีดวัคซีนได้กี่คนต่อวัน โดยนายอนุทินรายงานว่า ขณะนี้สามารถฉีดได้สูงสุด 4 แสนโดสต่อวัน นายกฯ จึงขอให้มีการเพิ่มจำนวนการฉีดให้ได้ 5 แสนโดสต่อวัน โดยนายอนุทินได้รับทราบเรื่องดังกล่าว