วันที่ 21 มิ.ย.64 นายเสกสรร ถนอมกิตติ นายอำเภออู่ทอง ได้รับรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด 1 ราย แต่มีการปฏิเสธการรักษา แล้วได้เดินทางออกนอกพื้นที่โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ต่อมานายอำเภออู่ทอง ได้มอบหมายให้นายสยาม ไฝเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง เข้าพบ ร.ต.อ.วีรยุทธ สุขแสง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สระยายโสม ให้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ หลังจากมีการตรวจพบผู้ป่วยชายไทย อายุ 56 ปี รายนี้ ปฏิเสธการรักษา แล้วขับรถยนต์ไปในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อทำธุระส่วนตัว จึงมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านมาแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ก่อน หากหลบหนีไม่มารับการรักษาจะดำเนินคดีตามกฏหมาย
ทางด้านนผู้ใหญ่สยาม เปิดเผยว่า ผู้ป่วยและภรรยา มีการสัมผัสกับผู้ป่วยเก่า คือ ลูกชาย ต่อมาจึงมีการตรวจเชื้อ พบผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ติดต่อให้มารักษา แต่ฝ่ายชายได้ปฏิเสธ การรักษา โดยได้ขับรถกลับไปทำธุระนอกพื้นที่ หลังทางนายอำเภอทราบเรื่อง จึงให้ตนมาลงประจำวันไว้ และติดต่อผู้ป่วย ซึ่งแจ้งว่า เย็นวานนี้ (20 มิ.ย.64) จะมาเข้ารับการรักษา จึงเดินทางมาลงประจำวันไว้ก่อน หากผู้ป่วยไม่กลับมารักษา จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และอยากฝากเตือน ถึงผู้มีความเสี่ยง หรือผู้ป่วย ให้แจ้งข้อมูลให้ถูกต้อง ไม่ปกปิด หากมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือผู้นำชุมชนด้วย จะได้ควบคุมโรคได้ และไม่แพร่กระจายไปยังชุมชน และคนรอบข้าง เพื่อช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคม
ล่าสุด นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี จึงได้สั่งการให้นายเสกสรร ถนอมกิตติ นายอำเภออู่ทอง ไปแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง เนื่องจากมีการฝ่าฝืนคำสั่งของ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งหลังจากตรวจพบเชื้อแล้ว ต้องไม่มีการออกเดินทางไปไหน หรือไปทำธุระที่อื่นทั้งสิ้น เพราะจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่ไปรับตัว เพื่อพามาทำการรักษา ถึงแม้ตอนนี้จะยินยอมเดินทางกลับมารักษาตัวแล้วก็ตาม โดยตอนนี้ได้สั่งการให้แจ้งความ ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ กับผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวแล้ว ต่อมา เวลา 17.00 น. วานนี้ (20 มิ.ย.64) นายเกริกฤทธิ์ จิตณรงค์ ปลัดอำเภออู่ทอง ได้เดินทางมาที่ สภ.สระยายโสม หลังได้รับมอบหมาย เพื่อมาแจ้งความดำเนินคดี โดยกล่าวว่า ผู้ป่วยกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค พศ.2558 มาตรา 34(1) และฝ่าฝืนคำสั่ง จ.สุพรรณบุรี ที่ 2669 /2564 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายดังกล่าวอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เป็นตัวอย่าง และผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป