ดุสิตโพลชี้การศึกษาไทยจากการเรียนออนไลน์แย่ลง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “หัวอกครู ผู้ปกครอง นักเรียน” กับการเรียนออนไลน์” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,749 คน สำรวจวันที่ 14 - 17 มิถุนายน 2564 โดยผลสำรวจมีดังนี้ ประชาชนมองว่ายังไม่พร้อมสำหรับการเรียนออนไลน์ ร้อยละ 51.35 และการศึกษาไทยก็ยังไม่พร้อมสำหรับการเรียนออนไลน์ ร้อยละ 63.30 สิ่งที่ครูกังวล คือ อุปกรณ์ไม่พร้อม อินเทอร์เน็ตช้า ร้อยละ 77.18 ผู้ปกครองกังวลว่าบุตรหลานจะไม่มีสมาธิขาดความกระตือรือร้น ร้อยละ 66.16 ตัวนักเรียนกังวลว่าจะเรียนไม่เข้าใจ ร้อยละ 74.25 และประชาชนมองว่าการเรียนออนไลน์นั้นผู้เรียนไม่มีสมาธิเท่าที่ควร ร้อยละ 65.80 โดยสิ่งที่อยากให้ภาครัฐ/สถานศึกษาช่วยเหลือ คือ อยากให้สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับเรียนออนไลน์ ร้อยละ 62.22 ทั้งนี้มองว่าการเรียนออนไลน์จะกระทบต่อการศึกษาระดับชั้นปฐมวัยมากที่สุด ร้อยละ 35.57 และจะทำให้คุณภาพการศึกษาไทยแย่ลง ร้อยละ 68.52 เมื่อการเรียนออนไลน์ต้องมาเป็นทางเลือกหลัก แต่ยังมีสถานศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียนบางส่วนที่ยังไม่มีความพร้อม จึงทำให้การเรียนออนไลน์เพื่อป้องกันโควิด-19 ครั้งนี้ กลับกลายเป็นการเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามากขึ้น เนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี ภาครัฐจึงควรสนับสนุนงบประมาณหรืออุปกรณ์ ช่วยเหลือทั้งกลุ่มครู ผู้ปกครอง และนักเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเด็กไทยหลุดจากระบบการศึกษาไป