วันที่ 20 มิ.ย.64 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งช าติ ขอเตือนภัยถึง20 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2564กรณีที่มีหลายหน่วยงานออกมาสนับสนุน แนะนำ กา รลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากโครงการต่างๆ ของภาครัฐเช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 หรือ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ฯลฯ ว่าในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ จึงมีหลายหน่วยงานพยายามคิดโปรโมชั่นรวมถึงให้ส่วนลดต่างๆ ให้สอดรับกับโครงการของภาครัฐ เพื่อดึงดูดให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย และเป็นการกระ ตุ้นเศ รษรูกิจ แต่ก็ยังมีเหล่ามิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างจากคว ามต้องการของที่น้องประชาชนนี้ในการกระทำความผิด ซึ่งในบางกรณีอาจมีการสร้างเว็บไซต์ปลอม หรือการส่ง SMS ทางโทรศัพท์มือถือ หรือสิงค์ ต่างๆที่มีลักษณะให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือให้ไส่รหัส OTP เป็นต้นเมื่อได้ไส่ข้อมูลลักษณะดังกล่าวไปแล้ว เหล่ามี จาาชีพ ก็อาจจะนำข้อมูลที่ได้ไปหาประโยชน์ในทางมิชอบและทำให้ได้รับความเสียหายในอนาคตการกระทำลักษณะตังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมหิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พรบ การกระทำความ ผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2560 มาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวช้องโดยดูจากพฤติการณ์แต่ละก รณีมาประกอบ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันหล็กเสี่ยงเพื่ อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อดังนี้ อย่าหลงเชื่อข้อมูลการโพสต์ หรือสิงค์ที่แนบมาพร้อมกับฮีเมสที่ไม่แนใจแหล่งที่มา ห้ามเปิดสิงค์ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด, ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ ผ่านระบบออนไลน์ ให้กับผู้อื่นหากยังไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน, หากพบ เพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ไสน์ หรืออีเมลที่น่าสงสัย ให้ติดต่อสอบถมกับหน่วยงานภา ครัฐหรือเอกชนที่ เกี่ยวข้องให้แน่ใจเสียก่อน, ในก รณีหลงเชื่อไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน เป็นต้น นอกจากนี้หากพบเห็นเบา ะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง