สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 มีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้ป่วยที่มีอาการหนักก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ดูแลรักษาเริ่มขาดแคลน นางอารดา จรูญเอก ประธานอำนวยการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้ดำเนินการช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนมาโดยตลอด ตามแนวนโยบายของบริษัทในเรื่อง Empathy ที่นอกเหนือจากการ “เข้าใจ” และ “ใส่ใจ” ในลูกบ้านแล้ว เรายังต้องใส่ใจในสังคมรอบข้างด้วย เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 กลับมารุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ก็จำเป็นที่จะต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทุกคนสามารถข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน “ไม่ใช่แค่ที่จะต้องดูแลเฉพาะลูกบ้าน ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างตอนนี้ เรามองถึงการส่งต่อความห่วงใยและความช่วยเหลือไปยังภาคส่วนต่างๆ ในระบบนิเวศด้านสาธารณสุข ตั้งแต่โรงพยาบาลที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย มูลนิธิที่ลงพื้นที่ชุมชน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญที่ดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพ เพื่อให้สามารถกระจายความช่วยเหลือไปได้ในวงกว้าง ส่งต่อความห่วงใยไปยังในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเข้าถึงชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติสุขภาพโดยตรง” ทั้งนี้ล่าสุดบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ได้ร่วมบริจาคเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,000,000 บาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์จำเป็นสำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ให้แก่ 10 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลระยอง โรงพยาบาลขอนแก่น และ โรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกันนี้ยังได้มอบเงินจำนวน 100,000 บาท ให้แก่ โรงพยาบาลสิรินธร เพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤติจาก COVID-19 นอกจากความช่วยเหลือในส่วนของโรงพยาบาลแล้ว บุคคลากรทางการแพทย์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่อาจมองข้าม โดยทางพนักงานทั้งหมดของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้ทำการส่งมอบความห่วงใยผ่านกล่องแทนความห่วงใยที่บรรจุเสบียงอาหาร พร้อมคลิปและข้อความถ่ายทอดความรู้สึกและให้กำลังใจ ไปยังทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ด้านการช่วยเหลือในชุมชนนั้น ทางบริษัทฯได้มอบเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิดวงประทีป ในการช่วยเหลือประชาชนที่เผชิญความเดือดร้อนในพื้นที่ชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และยังได้มอบเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท ให้แก่ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” เพื่อสนับสนุนโครงการ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย สำหรับตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ไปยังกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยออกให้บริการแก่ประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน ตามคลัสเตอร์ต่างๆ โดยสามารถรองรับการตรวจได้ถึง 1,000 คนต่อวัน ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังร่วมบริจาคสมทบทุนข้าวกล่อง เพื่อส่งความช่วยเหลือถึงชุมชนที่กำลังยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน วันละ 200 กล่อง และ โรงพยาบาลสนามรวมใจสมุทรปราการ ในมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ วันละ 500 กล่อง รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ กับโครงการ “เรื่องเล่าแบ่งปัน” อีกด้วย นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้ ทาง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมที่จะส่งมอบความห่วงใยให้กับทุกคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติ COVID-19 ไปด้วยกัน และพร้อมเดินหน้าเปิดรับสิ่งใหม่อย่างมั่นคงและแข็งแรง สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 86 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2564) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 133,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ฯลฯ เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร