“ไนซ์ ดาวดิน” อ่านแถลงการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล คู่ขนานการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ พร้อมประกาศเตรียมชุมนุมใหญ่เร็วๆนี้ หากรัฐยังนิ่ง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. 2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ดาวดิน นำคณะกรรมการประชาชนคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือ คปน. ภาคอีสาน ร่วมอ่านแถลงการณ์คัดค้านมติ ครม. วันที่ 1 มิ.ย. 2564 จากกรณีกรแก้ผังเมืองรวม จ.ชัยภูมิ จากพื้นที่สีเขียวให้ตั้งโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ได้ โดยในแถลงการณ์ ระบุว่า มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงบังคับผังเมืองรวมจังหวัดชัยภูมิและจ.อุบลราชธานี มีมติคณะรัฐมนตรีให้เปลี่ยนผังเมืองรวมจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ จากพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม สีเขียว เปลี่ยนผังเมืองให้เป็นพื้นที่อุตสากรรม ทำให้ทาง คณะกรรมการประชาชนคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล เชื่อว่ามติ ครม.นี้ เอื้อต่อนายทุนให้สามารถตั้งโรงงานน้ำตาลและโรงงานไฟฟ้วชีวมวล ส่วนผังเมืองรวม จ.อุบลราชธานี อ.เขมราฐและ อ.นาเยีย จากพื้นที่ชนบทเกษตรกรรม สีเขียว เปลี่ยนผังเมืองให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม (สีม่วง) ซึ่งจะทำให้เป็นแหล่งผลิตหินอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ดาวดิน กล่าวว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา มติ ครม.ให้เปลี่ยนผังเมือง จ.ชัยภูมิ ให้พื้นที่สีเขียวเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม และพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เป็นเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างโรงงานน้ำตาล โรงงานไฟฟ้าชีวมวล โดยที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีเรื่องที่กังวล 3 ประเด็น ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมของประชาชน มติ ครม.เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุน และการไม่ฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบในพื้นที่ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้ไปยื่นหนังสือแล้วกับทางจังหวัด โดยระบุว่าพื้นที่ในประกาศเป็นพื้นที่สีเขียว การจะเปลี่ยนผังเมืองเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เช่นที่ จ.ชัยภูมิจะทำให้โรงงานน้ำตาลห่างจากบ้านประชาชนประมาณ 30 เมตร เท่านั้น หากมีการสร้างโรงงานจริง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแน่นอน " ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่หากยังไม่ได้รับความสนใจ หรือลงมาพูดคุยกับชาวบ้าน ทางคณะกรรมการประชาชนคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือ คปน. ภาคอีสาน ได้พูดคุยเรื่องการยกระดับการเรียกร้อง หากรัฐบาลยังมีท่าทีดันทุรังในการผลักดันการเปลี่ยนผังเมืองอยู่ จะเตรียมยกระดับการชุมนุม เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร ส่วนข้อเรียกที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ คือ ยกเลิกมติ ครม.ที่เปลี่ยนผังเมืองจากสีเขียวเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม และยกเลิกนโยบายโรงงานน้ำตาลโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในภาคอีสานที่ออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน" นายภาณุวัตร กล่าวต่ออีกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้กำหนดทิศทางการชุมนุมที่กรุงเทพฯ หากรัฐบาลยังมีท่าทีดันทุรัง ในการผลักดันการเปลี่ยนผังเมือง โดยเฉพาะที่ จ.ชัยภูมิ ต้องยกเลิก มติ ครม. ที่จะเปลี่ยนผังเมืองสีเขียวให้สร้างโรงงานน้ำตาลได้ รวมทั้งการยกเลิกนโยบายโรงงานน้ำตาลโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในภาคอีสานที่ออกนโยบายมาเพื่อประโยชน์ให้กับนายทุน อย่างไรก็ตามต้องดูท่าทีของทางรัฐบาลก่อน ซึ่งเราจะมีการยื่นกรรมาธิการทางที่ดินและทรัพยากรก่อน และพวกเราเป็นคณะทำงานของกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรม คณะทำงานการตรวจสอบการมีส่วนร่วมเรื่องนโยบายโรงงานน้ำตาลอยู่แล้ว ก็จะมีการผลักดันประเด็นนี้ และกรรมาธิการชุดพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วม หากเรายื่นเรื่องไปแล้วเรียกเข้ามาไต่สวนแล้ว แต่ว่าทาง ครม.ยังมีท่าทีที่จะผลักดันต่อไป เราก็จะขยับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อกดดันรัฐบาลต่อไป "วันนี้ไม่เข้าไปยื่นหนังสือกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการจัดประชุมใหญ่ที่จังหวัดขอนแก่นนั้น เพราะเรามองว่าการไปยื่นกับ ประวิทย์ หรือยื่นกับ พรรคพลังประชารัฐ เราคิดว่าหนังสือที่เรายื่นหายแน่นอน เพราะไม่เชื่อใจอยู่แล้วว่า พรรค นี้จะฟังเสียงของประชาชน ดังนั้นจึงเลือกทางที่พอที่จะเป็นไปได้ เพราะทุกคนมั่นใจในการเคลื่อนไหวและต่อสู้ตามท้องถนน มากกว่าที่จะเชื่อใจพรรคพลังประชารัฐหรือรัฐบาล"