“ทิพานัน”ปลื้มรัฐบาลหนุนโครงการบ้านพอเพียง พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยในชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม ผู้ช่วยผอ.ภาค “พอช.”เผย2ปีมอบบ้านพอเพียงให้คนกรุงแล้วกว่า 500 หลัง
วันที่ 17 มิ.ย.64 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรมมอบบ้านพอเพียง เขตธนบุรี ให้กับชุมชนวัดดาวคะนอง ชุมชนมะนาวหวานและชุมชนตรอกสะพานขาว โดยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบททั่วประเทศ เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และได้มาตรฐาน ทั้งนี้ตนได้ลงพื้นที่ไปร่วมดูแลการส่งมอบบ้านพอเพียง โดยความร่วมมือของสำนักงานเขตธนบุรีและพอช.
"วันนี้เรามา 4 หลัง ใน4 หลังมีบ้านของคุณยายวัย 76 ปีซึ่งอาศัยอยู่กับน้องชาย 2 คน ในชุมชนมะนาวหวาน ที่ได้ทำการซ่อมแซมปรับปรุงพื้นบ้านจากพื้นไม้ที่ผุพังเป็นพื้นปูนให้มีความแข็งแรงทนทานและดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย รวมทั้งประสานงานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลปัญหาสุขภาพของคุณยายด้วยเพิ่มเติมด้วย
ในฐานะที่ทำงานประสานงานกับชุมชนมาโดยตลอด เล็งเห็นว่าโครงการบ้านพอเพียงเป็นโครงการที่มีประโยชย์สำหรับพี่น้องปะชาชนเป็นอย่างยิ่ง ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างเห็นผล เป็นก้าวแรกที่จะดูแลคุณภาพชีวิตเบื้องต้นของพี่น้องในชุมชนให้มีความมั่งคงปลอดภัยในเรื่องสภาพความเป็นอยู่ ก่อนจะก้าวไปสู่สังคมในการประกอบอาชีพ หรือว่าดูแลครอบครัวต่อไป หากพี่น้องประชาชนมีความมั่นคงในปัจจัยพื้นฐานก็จะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง”น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ โครงการนี้สะท้อนถึงความใส่ใจแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนายยุทธพงษ์ เขื่อนเมือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาค สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการที่สำคัญ เป็นการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ชำรุดทรุดโทรมให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยหรือว่ายากจน ดังนั้นในภาพของการดำเนินการคือการไปซ่อมแซมบ้านเพื่อให้บ้านมีความมั่นคงแข็งแรง สมาชิกที่อยู่ในบ้านก็จะมีความปลอดภัย และสามารถอยู่บ้านได้อย่างมีความสุข พร้อมที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในมิติต่างๆต่อไป ภายใต้การดำเนินการมีความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่โดยสภาองค์กรชุมชน ตำบล หรือเขตจะเป็นกลไกสำคัญที่จะไปเกาะเกี่ยว เชื่อมโยงหน่วยงานภาคีต่างๆ ภาครัฐและเอกชนเข้ามาเสริมสนับสนุนบูรณาการทำงานร่วมมากกว่างบประมาณที่ พอช.สนับสนุนมาเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นงบประมาณที่ไม่มาก
นายยุทธพงษ์ กล่าวด้วยว่า ภาพที่เกิดขึ้นนอกจากจะทำให้บ้านมีความมั่นคงแข็งแรงและผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว เครื่องมือตัวนี้เรื่องของบ้านพอเพียงชนบทได้นำไปสู่กลยุทธ์ในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของกลไกองค์กรสภาชุมชน หรือการสร้างการทำงานเชิงบูรณาการภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นบทเรียนที่สำคัญว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่ดีสมควรที่จะมีการดำเนินการในระยะต่อไป ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการไม่สามารถระบุปีที่ชัดเจน ในการดำเนินการให้กลุ่มเป้าหมายได้แล้วเสร็จได้ เนื่องจากปัญหาการชำรุดทรุดโทรมของบ้านยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันบทเรียนที่ผ่านมา สามารถลงไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงที่มีความยากจนและมีรายได้น้อย ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือยังสามารถทำให้สมาชิกต่างๆเหล่านี้ได้เข้ามามีส่วนร่วมที่สำคัญในการที่จะพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเองด้วย
“โครงการบ้านพอเพียงได้มีการกระจายทั่วทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งทางพอช.ดำเนินการมาแล้ว 5 ปี สำหรับกรุงเทพมหานครดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ 2 ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไป 500 กว่าหลังแล้ว”นายยุทธพงษ์ กล่าว