จากกรณีที่รายการวิเคราะห์ข่าวรายการหนึ่งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งตั้งนักการทูตจีนมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยแจงรายละเอียดประวัติและประสบการณ์ในการทำงานในหลายประเทศที่มีความขัดแย้งกับจีนในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่า จีนกำลังเริ่มมีปัญหาหรือข้อขัดแย้งในเรื่องความสัมพันธ์กับไทย เนื่องจากไทยกำลังเอนเอียงเข้าหาสหรัฐฯ และประเทศตะวันตก นั้น วันที่ 15 มิถุนายน 2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงในกรณีดังกล่าว ดังนี้ 1.ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน เป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ใกล้ชิด และแน่นแฟ้นในทุกระดับ และทั้งสองฝ่ายมีการเยือนและหารือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน โดยล่าสุด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2564 เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในกรอบอาเซียน-จีน และกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ตลอดจนได้หารือทวิภาคีกับมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนด้วย 2.เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายจีนได้ยื่นหนังสือขอความเห็นชอบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนปกติของฝ่ายไทย 3. ต่อกรณีที่มีการกล่าวว่าจีนแต่งตั้งนักการทูตที่มีความอาวุโสในวงการทูต มีความใกล้ชิดสนิทสนมและเป็นที่ไว้ใจของมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และมีประสบการณ์ในการทำงานในประเทศที่มีความขัดแย้งกับจีน อาทิ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอัครราชทูตจีนประจำญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเอกอัครราชทูตอีก จีนจึงได้แต่งตั้งบุคคลนี้มาเพื่อแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ไทย - จีน นั้น นายธานีฯ ชี้แจงว่า การที่จีนแต่งตั้งนักการทูตที่มีความอาวุโสและมีความรู้และประสบการณ์สูงมาเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยสะท้อนถึงความความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน และความสำคัญที่จีนให้กับไทยในฐานะมิตรประเทศที่เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ตำแหน่งอัครราชทูต (Minister) ในทางการทูต เป็นระดับที่รองจากตำแหน่งเอกอัครราชทูต (Ambassador) ซึ่งเป็นผู้แทนประมุขของรัฐ และเป็นหัวหน้าสำนักงานมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในสถานเอกอัครราชทูตของประเทศใดประเทศหนึ่งในต่างประเทศ 4. การที่รายการข่าวดังกล่าวได้พูดพาดพิงถึงประเทศอื่นและบุคคลที่จะมาเป็นตัวแทนของประเทศนั้นในไทย ควรตระหนักถึงความสำคัญและความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง เนื่องจากการกล่าวเช่นนั้นไม่เพียงอาจจะก่อให้เกิดความคลางแคลงใจและความไม่ไว้วางใจของคนไทยต่อบุคคลนั้นแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศนั้น ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงว่ารายงานข่าวข้างต้นเสนอข้อมูลที่บิดเบือน และไม่ได้มีพื้นฐานอยู่บนข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้แต่อย่างใด