วันที่ 15 มิถุนายน พล.ต.ต.วันชัย ธารธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณี พ.ต.ต.หญิง อรชร ผุยม่วง สารวัตรตำรวจรถไฟ จ.พระนครศรีอยุธยา กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจรถไฟ อดีตตำรวจตะเวนชายแดนเข้าของฉายาดอกไม้เหล็ก เสียชีวิตที่โรงพยาบาลหัวหิน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่สังคมโซเชียลแชร์ข้อมูลว่า เสียชีวิตภายหลังฉีดวัคชีนโควิด-19 เข็มแรกนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว จากการสอบถามสามีของผู้เสียชีวิตพบว่า ผู้เสียชีวิตได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรก เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่สถานีกลางบางชื่อกรุงเทพฯ หลังจากฉีด มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้เล็กน้อย
พล.ต.ต.วันชัย กล่าวว่า ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตพร้อมสามีได้เดินทางไปที่ จ.ขอนแก่น และเดินทางกลับมาที่บ้านพัก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แต่อาการป่วยยังไม่ดีขึ้น จึงได้เข้ารับการตรวจที่ รพ.หัวหิน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 โดยโรงพยาบาลหัวหิน ได้ตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ตามขั้นตอน และรับตัวไว้รักษาอาการปอดติดเชื้อ ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน 2564 ทราบผลการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 มีผลเป็นลบ และเสียชีวิตช่วงเช้าวันที่ 14 มิถุนายน 2564
“ จากการตรวจสอบกับแพทย์ รพ.หัวหิน สรุปว่าการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีกำหนดฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในวันที่ 16 มิถุนายน มีการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการปอดติดเชื้อ เนื่องจากโรคประจำตัว ซึ่งทำให้มีภูมิต้านทานต่ำ” พล.ต.ต.วันชัย กล่าว
มีรายงานว่า คอปส์ แมกกาชีนได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านออนไลน์ ระบุว่า ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เธอได้ไปฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” เข็มแรกที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดกลางบางซื่อ เมื่อเวลา 12.43 น. และรอสังเกตอาการถึงเวลา 13.13 น.ตามขั้นตอนปกติ
เจ้าตัวโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ติดแฮชแท็กบรรยายความรู้สึก “ฉีดก้อกลัว ไม่ฉีดก้อกลัว เอาวะเป็นไงเป็นกันค่ะ ความดัน 111/59 สู้ๆๆคะพุทธบารีของพุทธองค์คุ้มครองค่ะ”
กลับไปใช้ชีวิตทำงานตามปกติ กระทั่งต้นเดือนมิถุนายน 2564 เริ่มมีอาการป่วย ไม่ทราบแน่ชัดเกิดจากอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนหรือไม่
สารวัตรสาวไปนอนรักษาตัวโรงพยาบาล อาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จากนั้น “หัวใจหยุดเต้น” เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564ก่อนมีนัดฉีดวัคซีนเข็มสองเพียงวันเดียวปิดฉากชีวิตของอดีตตำรวจสาวพันธุ์แกร่งแห่ง “นเรศวร 261”
พ.ต.ต.หญิง อรชร ผุยม่วง เคยให้สัมภาษณ์ลงนิตยสาร COP’S ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม 2551 เมื่อครั้งมียศ ส.ต.ท.หญิง ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษ 3 กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ไปช่วยราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ประวัติเป็นเด็กสาวชาวหนองบัวลำภู ฝันอยากเป็นครูตำรวจตระเวนชายแดน เหตุผลเพราะชอบอยู่กับเด็กท่ามกลางป่าธรรมชาติ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง
เมื่อจบมัธยมปีที่ 6 โรงเรียนนาวังศึกษาวิช ตัดสินใจสมัครเข้าโรงเรียนตำรวจภูธร 7 เพราะคิดว่าใกล้ค่ายนเรศวร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี แต่ผลสุดท้ายได้เข้าสังกัดติด “อาร์มช้างศึก”ตามฝัน
เพียงแต่พลิกผันกลายเป็นตำรวจหญิงหน่วยพลร่มนเรศวร 261 ผ่านการฝึกอบรมอย่างหนักไม่แพ้ผู้ชาย
“หนูเข้าไปปรับพื้นฐาน 2เดือน ก่อนฝึกร่มกลม 1เดือน โดดร่มแบบกระตุก 1เดือน ฝึกหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย 6เดือน รวมทั้งฝึกยิงปืนทุกรูปแบบ เหมือนกับที่ตำรวจชายฝึกทุกอย่าง ตอนนั้นมีตำรวจหญิงอยู่ราว7-8คน” เธอเล่าไว้เมื่อ 13 ปีที่แล้ว
หลังจบหลักสูตรได้รับมายหมายไปอยู่ในหน่วยอารักขาบุคคลสำคัญ ก่อนถูกส่งลงไปทำหน้าที่บนสมรภูมิด้ามขวาน ช่วยราชการประจำอยู่งานกฎหมายและสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ส่วนหน้า) จังหวัดยะลา
มันเป็นภารกิจที่เธอสมัครใจลงไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงของประเทศ
ดอกไม้เหล็กของนักรบป่ายอมรับว่า การผ่านการฝึกอบรมที่ค่ายพลร่มนเรศวร ทำให้เราสามารถเรียนรู้ทุกอย่างในสภาวะความกดดันทุกรูปแบบ ถือเป็นหน่วยฝึกอบรมที่ดีที่สุดของตำรวจ
แม้จะเป็นตำรวจหญิง แต่หัวใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อยามต้องเผชิญเหตุวิกฤติ
วันนี้เธอโบกมือลากลับขึ้นสู่สวรรค์ท่ามกลางความอาลัยรักของครอบครัว และเหล่ามิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงผู้บังคับบัญชา
ทิ้งเรื่องราวเป็นอนุสรณ์ที่น่ายกย่องชื่นชมในความสามารถของเธอ