เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น ขณะที่หุ้นไทยยังยืนเหนือ 1,600 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ทั้งการประชุมเฟด (15-16 มิ.ย.) สถานการณ์โควิด-19 ปัญหาการกระจายวัคซีน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทได้รับแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับมีปัจจัยบวกตั้งแต่ในช่วงต้นสัปดาห์จากข่าวการปูพรมเร่งฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยอ่อนค่าลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ร่วงลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1.50% เนื่องจากตลาดประเมินว่า แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะขยับขึ้น แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็อาจจะยังไม่รีบส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินในเร็วๆนี้ ในวันศุกร์ (11 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.06 เทียบกับระดับ 31.28 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (4 มิ.ย.) สำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.90-31.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินและ Dot Plot ชุดใหม่ของเฟด รวมถึงสถานการณ์และแผนการกระจายวัคซีนต้านโควิด 19 ในประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียและดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ค. อาทิ ข้อมูลยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และการผลิตภาคอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน