"อนุทิน" ตรวจเยี่ยม ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ เผย ใช้เป็นจุดบริการบุคลากรครู พื้นที่ กทม.-ปริมณฑล
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ใช้ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ฉีดวัคซีนให้กลุ่มบุคลากรทางการศึกษา เพื่อรองรับการเปิดเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัดก็เป็นไปตามการลงทะเบียนและแผนการกระจายวัคซีนของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
"การปูพรมฉีดวัคซีนของประเทศไทย มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนการจัดสรรวัคซีนไปยังหน่วยงานต่างๆ กรมควบคุมโรค ก็ส่งไปตามความเห็นชอบของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ทุกประการ ส่วนเรื่องการบริการฉีด เป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงาน"นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องการจัดส่งวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ระบุปริมาณวัคซีน และช่วงเวลาการจัดส่งในแต่ละเดือนชัดเจน เป็นหน้าที่ของกรมควบคุมโรค กับบริษัทแอสตร้าฯ ที่จะตกลงหารือร่วมกันในเรื่องการนำเข้ามาให้บริการ ให้สอดคล้องกับจำนวนการผลิต และศักยภาพในการฉีดของไทย
ต่อกรณีการปรากฏข่าวว่าประเทศไทย กำลังปิดกั้นการจัดส่งวัคซีนออกนอกประเทศ นายอนุทิน ตอบว่า ไทยไม่ได้ปิดกั้นการส่งออกวัคซีนของบริษัทแอสตร้าฯ เป็นเรื่องการจัดการของผู้ผลิต ทั้งนี้ ในขณะที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดทั่วโลก การที่ไทยได้เป็นฐานการผลิต จึงทำให้สะดวกกว่าในการบริหารวัคซีน ยิ่งกว่านั้น การที่ไทย ได้รับเลือกให้ได้สิทธิ์ผลิต และได้รับความเชื่อมั่นจากนานาชาติ ในการใช้วัคซีนที่ผลิตในไทย เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจ
"ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า วัคซีนทุกตัวที่นำมาฉีดมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเจ็บป่วยรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนกรณีการเสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีนนั้น จะต้องมีการพิจารณาของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่า ความสูญเสียนั้นสัมพันธ์กับวัคซีนหรือไม่ ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) มีระบบดูแลประชาชน ทั้งกรณี เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนหรือกรณีเสียชีวิต ก็สามารถรับค่าชดเชยต่างๆ ได้ "รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข กล่าว