วันที่ 12 มิ.ย. 64 แหล่งข่าวรายงานว่า กระแสวัดขุมกำลังอำนาจในศึกเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลังในวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00-16.30 น. ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ทำให้คอการเมืองลุ้นว่า ใครจะนั่งตำแหน่งกุมบังเหียนแม่บ้านคนสำคัญของพรรคพลัง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่ ที่รวมพลังขุมอำนาจนักการเมืองหน้าเก่าและหน้าใหม่ หากส่องดูขุมกำลังอำนาจ ศึกช้างชนช้าง ระหว่าง แหม่ม “อัญชิสา เทพทับทิมทอง” รักษาการเลขาธิการพรรค ในวัย 35 ปี เป็นหญิงเก่ง หญิงแกร่ง มากด้วยความรู้ ความสามารถ ภาพลักษณ์ยี่ห้อ”ว่าที่ ดร.” และ”คนรุ่นใหม่” มีประสบการณ์ทางการเมืองดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร แม้จะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ แต่มีแรงผลักดันซึ่งได้รับการสนับสนุนจากระดับบิ๊กผู้มีอำนาจภายในพรรค พลิกปูม ประวัตินักการเมืองสายปักษ์ใต้ คู่แข่งคนสำคัญ “บิ๊กโกเกียรติ”อุดมเกียรติ ปานมี เกิด 11 พฤศจิกายน 2493 คู่สมรส นางธนพร อภินันทิกุล ปานมี อดีตข้าราชการครูชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 มีบุตรด้วยกัน 2 คน ประวัติการศึกษา ปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศนียบัตรวิชาว่าความ สภาทนายความ ประกาศนียบัตรประโยคครูพิเศษมัธยม กรมฝึกหัดครู ผ่านหลักสูตรผู้นำการเมืองยุคใหม่ รุ่น 5(ปนป.5) สถาบันพระปกเกล้า และหลักสูตรผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับผู้นำขั้นความรู้ขั้นสูง
สำนักคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ประสบการณ์ทำงานรับราชการเป็นตำรวจกองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ 42 อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่ครูตำรวจตะเวนชายแดน ในชั้นยศ”ดาบตำรวจ”ซึ่งบิ๊กโกเกียรติมีความหลงไหลในความเป็นประชาธิปไตยและเชื่อมั่นว่า การเข้าสู่อำนาจการเมืองระดับชาติ จะเป็นกลไกผลักดันแก้ปัญหาในพื้นที่ชนบท ทำงานเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ เข้าถึงพี่น้องประชาชนคนปักษ์ใต้ได้มากกว่า จึงลาออกจากราชการมาสู่การเมืองระดับชาติตามที่ตั้งใจ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 7 นครศรีธรรมราช สวมเสื้อ”พรรคไทยรักไทย” ในการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระดับเขตเลือกตั้ง สมใจปรารถนา ต่อมา 19 กันยายน 2549 เกิดรัฐประหารโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.จึงทำหน้าที่ สส.ได้เพียง 6 เดือน ต่อมาพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค ทำให้เปลี่ยนมาสวมเสื้อ”พรรคพลังประชาชน”ในศึกเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 สอบตก ต่อมาพรรคถูกยุบอีกครั้ง หันมาสวมเสื้อ”พรรคเพื่อไทย”ในปี 2554 ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 นครศรีธรรมราช ยังสอบตกเพราะแพ้กระแสพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ หลังจากนั้นย้ายพรรคไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ แต่พรรคถูกยุบก่อนเลือกตั้งไปในที่สุด หากส่องถึงประสบการณ์ทำงานการเมือง ทีมคณะทำงานรัฐมนตรีว่ากาศึกษาธิการ(ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช) คณะทำงานอนุกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร และนั่งตำแหน่งกรรมาธิการอีกหลายคณะถึงปัจจุบัน ส่วนตัวยังประกอบอาชีพ”ทนายความ” คนดัง ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายในพื้นที่ เป็นหัวหน้าสำนักทนายอุดมเกียรติ ปานมีและเพื่อน และยังเป็นที่ปรึกษาประธานสภาทนายจังหวัดทุ่งสงอีกด้วย หากพิจารณาถึงประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ “บิ๊กโกเกียรติ” มีประวัติโปรไฟล์ไม่ธรรมดา จากครูตำรวจตะเวนชายแดน ขยับมานั่งตำแหน่งทางการเมืองเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นครศรีธรรมราช 1 สมัย ขยับมานั่งรักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ พรรคพลัง คุม 14 จังหวัด 50 เขตเลือกตั้ง ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ขยับมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญในศึกช้างชนช้าง การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลัง ชุดที่ 1 ใครจะได้นั่งแม่บ้านพรรคคนสำคัญ ตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคพลัง รวมทั้งจะนำพาพรรคคว้าเก้าอี้ สส.ในสภาในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า จำนวนกี่เก้าอี้
ซึ่งแหล่งข่าว ยืนยันว่า พรรคพลัง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นสถาบันทางการเมือง ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เน้นลงมือทำ พันธมิตรทุกฝ่าย พร้อมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งลงสู้ศึกทุกเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าจะใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสมเป็นบัตรใบเดียว 350 เขตเลือกตั้ง +150 หรือจะแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ “เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ” สูตร 400+100 แถมพรรคพลังขณะนี้ยังเปิดรับผู้สนใจร่วมทำงานการเมืองว่าที่ผู้สมัครฯทุกเขตเลือกตั้งที่ศูนย์ประสานการเมือง สายตรง 081-956-8555 ว่ากันว่า ถึงขนาดจะต้องใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ลงคะแนนโดยวิธีเป็นความลับ ของ กกต. นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน หากเทียบเคียงกับ”พรรคพลังประชารัฐ” แม่บ้านพรรคคนสำคัญ ในการประชุมใหญ่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะคว้าตำแหน่งเลขาธิการพรรคแทนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคคนปัจจุบันหรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะทราบก่อนพรรคพลัง เพราะกำหนัดวันประชุมใหญ่วันเดียวกัน แต่คนละเดือน (18 มิถุนายน 2564) ให้ติดตามว่า “บิ๊กโกเกียรติ”อุดมเกียรติ ปานมี จะชนะใจสมาชิกทั้งประเทศ เทคะแนนให้เข้าวินเป็นแม่บ้านพรรคคนใหม่หรือไม่ โปรดติดตาม ศึกช้างชนช้าง 18 กรกฎาคม นี้ ห้ามกระพริบตา