ผบ.ช.3 แถลงจับกุมโจ๋ ควงปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง พ้นโทษจากสถานพินิจ ตำรวจใช้เวลา 7วัน จับกุมตัวได้พร้อมอาวุธปืน ก่อคดีมาแล้วโชกโชน จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.64 เวลา 12.30 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด บุกเดี่ยวปล้นร้านทองชานันท์ เลขที่ 191 ถนนศรีนคร ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป ซึ่งในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เฝ้าร้านทองพักเที่ยงออกไปทานข้าว จึงไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เฝ้าร้าน คงมีแต่เจ้าของร้านอยู่คนเดียว จึงเป็นโอกาสให้คนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น บุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด บุกเข้าเข้าไปในร้าน โดยเมื่อเข้าไปภายในร้านก็ได้ชักอาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิดออกมาเล็งใส่เจ้าของร้าน ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้านหลบหนีไป โดยไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรไป ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนบุรีได้รับแจ้งเหตุ จึงได้ให้ชุดสืบกระจายกำลังออกติดตาม โดยได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในร้านทองที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ผมบ๊อบสั้น กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อเชิ้ตแขนสั้นลาย สวมรองเท้าผ้าใบสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาวดำยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก พร้อมทั้งยังได้ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะขับผ่านด้วย เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐานออกติดตามตัว หลังจากนั้น พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.รัตนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.รัตนบุรี ตรวจสอบภาพคนร้าย จากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้ตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลตำบลรัตนบุรี จนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาคือ นายเจนหยก อาจารีย์ (เป็นเยาวชน) อายุ 19 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ บ้านเลขที่ 14 ม.ที่ 7 ต.ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2564 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ปั้มน้ำมันพีที พื้นที่ สภ.สุวรรณภูมิ ปี 2561 หลังพ้นโทษจากสถานพินิจ ประมาณเดือน มิ.ย. 2564 ได้มาพักอาศัยอยู่ตามภูมิลำเนา จึงติดตามจับกุมตามหมายจับได้ที่บ้านดังกล่าว ต่อมาได้ขยายผล ตรวจค้นยึดของกลางได้ เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินลายรูปรถยนต์ รองเท้าสีแดง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ซีซี สีขาวดำ ซึ่งเป็นรถ ที่ใช้ก่อเหตุพยายามจี้ชิงทรัพย์ ในเขตพื้นที่ สภ.รัตนบุรี ซึ่งตรงกับกล้องวงจร และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ที่ใช้ก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.รัตนบุรี และ สภ.ศีขรภูมิ ซึ่งตรงกับกล้องวงจรปิดบริเวณภายในร้านทองชานันท์ ในตลาด อ.รัตนบุรี ที่เกิดเหตุ และเสื้อคลุมนอกสีขาวแขนยาว มีอักษร CHINA ที่ใช้ก่อเหตุพยายามจี้ชิงทรัพย์ ปั้มน้ำมัน PT เขตพื้นที่ สภ.ศีขรภูมิ ซึ่งตรงกับกล้องวงจรปิด บริเวณภายในปั้ม PT ที่เกิดเหตุ และหลักฐานพยานอีกหลายชิ้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเก็บรวบรวมมาได้จากการที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิด จากโครงการเซฟตี้โซนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 ทำให้สามารถติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ในเวลา 14.00 น.เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.2564 ) ของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ได้เดินทางมาเพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง และได้แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีพยายามชิงทรัพย์ร้านทองโดยมีหรือใช้อาวุธปืน ในพื้นที่อำเภอรัตนบุรี ที่บริเวณหน้า สภ.รัตนบุรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงผลการจับกุมในครั้งนี้ ระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นเยาวชนอายุ 19 ปี ก่อเหตุชิงทรัพย์ มาแล้ว 7 ครั้ง โดยเฉพาะเดือนนี้เดือนเดียวได้ก่อเหตุมากแล้วถึง 3 ครั้ง เจ้าหน้าตำรวจได้พยานหลักฐานมาจากกล้องวงจรปิด ในโครงการ 1 อำเภอ 1 เชฟตี้โซน ตามนโยบายของสำนักตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 ทำให้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ซึ่งก็ต้องขอชมเชยตำรวจ สภ.รัตนบุรีทุกนาย ที่มุ่งมั่นทำงานจนสำเร็จในครั้งนี้ ขณะที่นายทวีวัฒน์ วิภูมิตสิตสกุล อายุ 43 ปี เจ้าของร้านทองชานันท์ ที่ผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปหวังจี้ชิงทอง ได้เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้เพื่อของคุณ ผบช.ภ.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม และ นายปรีชา ศรีโสดา นายกฯ อบต.รัตนบุรี และ ประธาน กต.ตร. รัตนบุรี ก็ได้เดินทางมาเป็นตัวแทนประชาชนอำเภอรัตนบุรีกล่าวของคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ด้วย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนยังบริเวณที่เกิดเหตุ ร้านทองชานันท์ ถนนศรีนคร ก่อนที่จะนำตัวกลับพร้อมกับทำเรื่องส่งตัวฝากขังต่อไป