วันที่ 11 มิถุนายน 2564 นายธีรเชษฐ โสทอง รองประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู ต.ชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ชาวบ้านเพิ่งได้รับข้อมูล ว่า ทางจังหวัดพิษณุโลกมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการโดยเด็ดขาดกับกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นผลจากการที่ นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมกับกรมชลประทานประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับชาวบ้าน โดยอ้าง ว่า มีการบุกรุกป่าสงวนกว่าพันไร่ในพื้นที่บ้านวังแดงที่อยู่ในพื้นที่ตำบลชมภู ทั้งนี้ นายธีรเชษฐ กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงแล้ว พื้นที่ที่มีการกล่าวหาว่าชาวบ้านบุกรุกป่านั้น ชาวบ้านทำกินปลูกพืชไร่มานานแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติมีการกันแนวเขตเป็นที่ทำกินดั้งเดิมให้ชาวบ้านไว้อย่างชัดเจน และต่อมามีการจัดสรรที่ดินให้สิทธิ์ชาวบ้านตามแนวทางคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดเพื่อจัดการกับกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่และมีการทำกิจกรรมเพื่อการดูแลปกป้องป่าต้นน้ำและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่นี้มาโดยตลอด “ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าคำสั่งจัดการชาวบ้านนี้ น่าจะเกิดจากที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาคัดค้านโครงการเขื่อนคลองชมพู และต่อต้านการทำเหมืองหิน เพราะกลุ่มนักการเมืองในจังหวัดบางคนมีความเกี่ยวข้องกับโรงโม่หิน มีผลประโยชน์จากการสร้างเขื่อน และมีคดีความฟ้องร้องกับชาวบ้าน มีความพยายามใช้ช่องทางต่างๆ เล่นงานให้ร้ายเพื่อทำลายความชอบธรรมของชาวบ้านมาโดยตลอด” นายธีรเชษฐ กล่าว โดย นายธีรเชษฐ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านได้หารือกันมีข้อสรุปว่าจะทำหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ถ้าหากไม่ได้ข้อยุติจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไปเพื่อให้ยกเลิกคำสั่งนี้ รวมไปถึงเร่งติดตามให้รัฐเร่งยกเลิกประกาศแหล่งหินอุตสาหกรรมในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันไม่มีการทำเหมืองหินหรือโรงโม่หิน ทั้งนี้เพื่อให้ประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทางสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และเขตป่าสงวนแห่งชาติ อีกทั้งยังมีการพบว่าเป็นแหล่งอาศัยหากินและขยายพันธุ์ของจระเข้น้ำจืดตามธรรมชาติ