ในจังหวะรุกของ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังบุกรัวหมัดใส่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพลินๆไม่ทันระวังหลัง รู้สึกตัวอีกทีก็เสีย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยให้พรรคพลังประชารัฐไปเสียแล้ว เมื่อชื่อของ “เรืองไกร” ไปนั่งอยู่ในกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ วิรัช รัตนเศรษฐ ก็ยอมรับว่า เรืองไกรย้ายมาสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐได้เกือบเดือนแล้ว โดยว่ากันว่า งานนี้เป็นฝีมือ “ดีล” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่พา “เรืองไกร” มุดรั้วมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดพบหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บวกกับปัญหาความขัดแย้งที่เจ้าตัวถูกปลดจากกมธ.พิจารณางบประมาณ2564 แน่นอนว่า “เรืองไกร” ไม่ใช่ส.ส. แต่เป็นอดีตส.ว. เมื่อดูดเข้ามาแล้วก็ไม่ได้เพิ่มจำนวนเก้าอี้ให้กับพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด จึงเกิดคำถามว่า แล้วดึง “เรืองไกร” มาทำไม??? แน่นอน ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน การบัญชี ที่เขาเคยฝากผลงานเอาไว้ ทั้งคคีหุ้นชินคอร์ปฯของ ทักษิณ ชินวัตร หรือ “พี่โทนี” กูรูคลับเฮาส์ และคดี “ชิมไปบ่นไป”ของสมัคร สุนทรเวช การมานั่งในตำแหน่งกรรมาธิการงบฯ จึงยังประโยชน์ให้กับพรรคพลังประชารัฐอย่างยิ่ง เพราะในชั้นกรรมาธิการนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการปรับลดงบประมาณ ที่เป็นเป้าหมายของฝ่ายค้าน และหลังจากได้รับการแต่งตั้ง ล่าสุด “เรืองไกร” ก็โชว์ผลงานแรกด้วยการยกกฎหมายมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญมาสกัดดาวรุ่งอย่างพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ออกมาประกาศว่าจะปรับลดงบประมาณปี 2565 โดยยื่นเรื่องให้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตักเตือน หัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วย ขณะที่ก่อนหน้านี้เขาได้ร้องเรียนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.สอบบัญชีทรัพย์สินของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน เอาไว้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งและ “เสี่ยโจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชื่อของ “เรืองไกร” จึงกลายเป็นของแสลงของฝ่ายค้าน เป็นหนามยอกใจเพื่อไทย และคนแดนไกลที่กำลังปั้นแบรนด์หวังหวนคืนสู่ศูนย์กลางอำนาจ