สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ หรือซีดีซี ได้ปรับเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการจัดลำดับความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในแต่ละประเทศ พร้อมกับกำหนดคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศที่ถูกจัดในแต่ละลำดับความเสี่ยง
รายงานข่าวแจ้งว่า “ซีดีซี” ได้แก้ไขปรับเกณฑ์ใหม่ โดยประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด เปลี่ยนจากผู้ติดเชื้อ 100 รายต่อประชากร 100,000 ราย เป็น 500 รายต่อประชากร 100,000 ราย เนื่องจากการควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ดีขึ้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 ระดับ เป็นสีต่างๆ ตามความเสี่ยงจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
ทั้งนี้ ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด จะถูกจัดให้ไปอยู่ในกลุ่มประเทศสีแดงเข้ม ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไป หรือถ้าจะเดินทางเข้าไปต้องฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนดก่อน ประเทศที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ บราซิล ชิลี สวีเดน ซาอุดิอาระเบีย เนปาล และเกาหลีเหนือ เป็นต้น
ส่วนประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศสีแดง ได้แก่ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อินโดนีเซีย มาเลเซีย เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สเปน แอฟริกาใต้ สเปน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมถึงไทย
พร้อมมีคำแนะนำให้ประชาชนควรฉีดวัคซีนให้ครบก่อนเดินทางเข้าไป หรือหลีกเลี่ยงเดินทางเข้าไปโดยไม่จำเป็น
ทางด้านประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง ถูกจัดให้อยู่กลุ่มประเทศสีส้ม โดยประชาชนจะเดินทางเข้าไป ก็ควรฉีดวัคซีนให้ครบก่อน หรือควรเลี่ยงการเดินทางเข้าไปโดยไม่จำเป็น ประเทศกลุ่มนี้ได้แก่ กัมพูชา ฟินแลนด์ เคนยา และยูกันดา เป็นต้น
ด้านประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศสีเหลือง ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไน จีน อิสราเอล โมร็อกโก นิวซีแลนด์ ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไนจีเรีย เป็นต้น พร้อมกับมีคำแนะนำว่า ประชาชนที่จะเดินทางเข้าไปควรฉีดวัคซีนให้ครบก่อน
ขณะที่ ระดับสุดท้ายถูกจัดให้กลุ่มประเทศที่ไม่ทราบแน่ชัด โดยมีคำแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงการเดินทางเข้าไป หรือควรฉีดวัคซีนให้ครบก่อน ประเทศกลุ่มนี้ได้แก่ อัฟกานิสถาน ไอร์แลนด์ โมนาโก ซานมารีโน ซูดาน และแทนซาเนีย เป็นต้น