ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย (TEF) กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สามารถคว้าสิทธิ์เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม -วันที่ 8 สิงหาคม 2564 หลังนักกีฬาขี่ม้าทั้ง 3 คนสามารถผ่านการควอลิฟายด์ได้สำเร็จในประเภททีมอีเวนติ้ง จากรายการแข่งขันบาโบโรว์โค อีเควสเทรียน เฟสติวัล ณ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 27-30 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นรายการที่ทดสอบสมรรถภาพองค์รวมของนักกีฬาขี่ม้า เพราะได้รวมการแข่งขัน 3 ประเภทเข้าด้วยกัน นั่นคือ โชว์จัมปิ้ง หรือ ขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, เดรสสาจ หรือ ศิลปะการบังคับม้า และครอสคันทรี หรือ ขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในภูมิประเทศ จนทำให้ผ่านเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกประเภททีม  Maxime Livio โดย นักกีฬาขี่ม้าของไทยได้เข้ารับการฝึกฝนกับ Maxime Livio นักกีฬาขี่ม้าและเทรนเนอร์ประเภททีมอีเวนติ้งชาวฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งประสบความสำเร็จจากชัยชนะถึง 25 ครั้งในการแข่งขันประเภททีมอีเวนติ้ง ระดับเมเจอร์ของสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (Federation Equestrian Federation - FEI) และถูกจัดให้อยู่ในระดับแถวหน้าของนักกีฬาขี่ม้าของฝรั่งเศสมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้นำทีมนักกีฬาขี่ม้าของไทยคว้าเหรียญทองแดงได้ในปี 2561 ที่เอเชียนเกมส์ ณ กรุงจาการ์ตา เช่นเดียวกับผลงาน 2 เหรียญทองในการแข่งขันประเภททีมและเดี่ยว ในการแข่งขัน FEI Asian Championships ที่จัดขึ้น ณ สนามไทยโปโลแอนด์อีเควสเตรียนคลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี สำหรับนักกีฬาขี่ม้าของไทย จะฝึกฝนตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ที่ Ecurie Livio Stable ในเมืองโซมูร์ ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายไปที่เมือง อาเค่น ประเทศเยอรมนี ในเดือนกรกฎาคม เพื่อกักตัวม้าก่อนเข้าแข่งขัน ซึ่งเป็นข้อบังคับของเจ้าภาพ เช่นเดียวกับนักกีฬาที่ต้องตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวน 2 รอบก่อนจะเข้าประเทศญี่ปุ่น และจะต้องตรวจทุกวันตลอดช่วงเวลาการแข่งขันโอลิมปิก โดยไม่มีการอนุญาตให้มีผู้เข้าชมการแข่งขัน แต่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้อนุญาตให้เจ้าของม้าได้สิทธิ์เข้าชมได้ 1 สิทธิ์ต่อม้า 1 ตัว