"ทนายตั้ม" บอก "ลุงพล" เป็นหนูทดลอง ข้องใจใช้'ซินโครตรอนตรวจ "ดีเอ็นเอเส้นผม" ด้าน "ชวน" แนะทนาย "ลุงพล ยื่นร้องสภาฯท้วงติงฝ่ายตำรวจ ปมกรอบอำนาจหน้าที่ ระบุฝ่ายกม.จะพิจารณาเองทำได้หรือไม่
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุม นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร คดีการเสียชีวิตของ"น้องชมพู่"อายุ 3 ขวบ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 บนเขาภูเหล็กไฟ ต่อมาศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์ 180,000 บาท พร้อมออกข้อกำหนด หากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประ กันตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความของ "ลุงพล" ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" ว่า "เครื่องซินโครตรอน ใช้บอกว่ามีอนุภาค หรือสารประกอบในเส้นผมได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เอามาใช้ระบุว่า เส้นผมนั้นเป็นของบุคคลใด (personal identification) โดยส่วนใหญ่ที่ใช้ คือ อาจมีการใช้กว้างๆ ระดับเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน โดยอนุมานว่า น่าจะได้รับสารจากสิ่งแวดล้อมเดียวกัน เข้าใจว่าการทดสอบนั้น เขาใช้กันครับ แต่ไม่มีใครเขาใช้มาพิสูจน์ หรือยืนยันอะไรกันแบบนี้ คดีนี้จึงเป็นครั้งแรกในโลกที่ใช้ระบุตัวบุคคล ลุงพลจึงเป็นหนูทดลองในเรื่องนี้! คำถามที่ถามไปคราวก่อน DNA ที่พบในเส้นผม ตำรวจยืนยันได้อย่างไรว่า เป็นของป้าแต๋น ณ เวลานี้ก็ยังไม่มีคำตอบ!!"
ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อท่วงติงจากฝ่ายตำรวจในกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการสามารถทำได้หรือไม่ ที่ทนายของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล จะมายื่นร้องต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ว่า ผู้ร้องสามารถทำได้และกระบวนการกรรมาธิการก็จะพิจารณาภายใต้กรอบกฎหมายข้อบังคับ ซึ่งจะยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร หรือกรรมาธิการก็ได้ ถ้ายื่นมาที่สภาฯฝ่ายกฎหมายจะดูว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ บางเรื่องไปยื่นที่กรรมาธิการเอง โดยไม่ผ่านมาที่สภาฯ