โชเฟอร์10 ล้อ เคราะห์ร้าย ถูกเพื่อนอาชีพเดียวกันขับรถ 10 พุ่งชนจนกะโหลกแตกเสียชีวิตที่กาญจน์ คาดเป็นเพราะความประมาท หลังขับรถบรรทุก 10 ล้อ รับจ้างขนดินไปถมลานก่อสร้างฟาร์มไก่ จอดรถยกดั้มกระบะ ดับเครื่อง โดยไม่เข้าเกียร์ว่าง พอขึ้นขับสตาร์ทรถ รถเกิดกระชุ้นพุ่งชนเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันที่จอดรถยืนซ่อมหม้อลมเบรกจนกะโหลกแตกเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 5 มิ.ย.64 ร.ต.อ.สุเทพ มรกตจักรษุพันธุ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำรอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนยฺวิทยุ สภ.สำรองฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ พุ่งชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณลานดินริมถนนบ้านหนองกำแพง หมู่ 11 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วงฯ
หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์ รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำจุดรอรับเหตุ ต.รางสาลี่ และ ต.หนองตากยา ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพด้วย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นลานดินกว้างสถานที่ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่มีรถบรรทุก 10 ล้อ จอดอยู่จำนวนหลายคัน พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนหงายจมกองเลือดอยู่ข้างรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อห้ออีซูซุสีฟ้า หมายเลขทะเบียนป้ายขาว 83-1981 ราชบุรี ในสภาพน่าชวนสยดสยอง เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตก มันสมองปนเลือดไหลนองพื้น
ใกล้กันพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีฟ้าคาดเหลือง หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70-2423 ราชบุรี ตรวจสอบที่บริเวณกันชนด้านหน้ามีเศษมันสมองตกอยู่ ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ตาย ชื่อนายธนวัฒน์ อรรถสิทธิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/3 หมู่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายธนวัฒน์ ผู้ตายได้รับจ้างขับรถ 10 ล้อ บรรทุกดินมาถมที่ก่อสร้างฟาร์มไก่ หลังเทดินเสร็จเรียบร้อย รถเกิดมีปัญหาเรื่องเบรก ผู้ตายจึงจอดรถลงไปซ่อมหม้อลมเบรกรถด้านซ้ายของรถ อยู่ตรงที่หน้ารถบรรทุก 10 ล้อ อีกคัน ที่เทดินเสร็จเรียบร้อย จอดรถยกดั้มกระบะบรรทุกขึ้น เพื่อให้เศษดินที่ติดค้างตกลงมาให้หมดจอดดับเครื่องอยู่ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อคนขับรถคันที่จอดยกดั้มกระบะบรรทุก ได้เดินขึ้นรถสตาร์ทเครื่อง เข้าใจว่าตอนจอดรถคนขับคงลืมเข้าเกียร์ว่าง เมื่อสตาร์ทเครื่องรถ จึงทำให้รถเกิดแรงกระชุ้นพุ่งเข้าชนร่างของนายธนวัฒน์ ผู้ตายที่ยืนซ่อมหม้อลมเบรกรถจนศีรษะไปกระแทกกับกันชนหน้ารถจนกะโหลกแตกเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวคนขับรถคันก่อเหตุไปสอบสวนปากคำหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณี
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 5 มิ.ย.64 ร.ต.อ.สุเทพ มรกตจักรษุพันธุ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำรอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนยฺวิทยุ สภ.สำรองฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ พุ่งชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณลานดินริมถนนบ้านหนองกำแพง หมู่ 11 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วงฯ
หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์ รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำจุดรอรับเหตุ ต.รางสาลี่ และ ต.หนองตากยา ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพด้วย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นลานดินกว้างสถานที่ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่มีรถบรรทุก 10 ล้อ จอดอยู่จำนวนหลายคัน พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนหงายจมกองเลือดอยู่ข้างรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อห้ออีซูซุสีฟ้า หมายเลขทะเบียนป้ายขาว 83-1981 ราชบุรี ในสภาพน่าชวนสยดสยอง เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตก มันสมองปนเลือดไหลนองพื้น
ใกล้กันพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีฟ้าคาดเหลือง หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70-2423 ราชบุรี ตรวจสอบที่บริเวณกันชนด้านหน้ามีเศษมันสมองตกอยู่ ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ตาย ชื่อนายธนวัฒน์ อรรถสิทธิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/3 หมู่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายธนวัฒน์ ผู้ตายได้รับจ้างขับรถ 10 ล้อ บรรทุกดินมาถมที่ก่อสร้างฟาร์มไก่ หลังเทดินเสร็จเรียบร้อย รถเกิดมีปัญหาเรื่องเบรก ผู้ตายจึงจอดรถลงไปซ่อมหม้อลมเบรกรถด้านซ้ายของรถ อยู่ตรงที่หน้ารถบรรทุก 10 ล้อ อีกคัน ที่เทดินเสร็จเรียบร้อย จอดรถยกดั้มกระบะบรรทุกขึ้น เพื่อให้เศษดินที่ติดค้างตกลงมาให้หมดจอดดับเครื่องอยู่ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อคนขับรถคันที่จอดยกดั้มกระบะบรรทุก ได้เดินขึ้นรถสตาร์ทเครื่อง เข้าใจว่าตอนจอดรถคนขับคงลืมเข้าเกียร์ว่าง เมื่อสตาร์ทเครื่องรถ จึงทำให้รถเกิดแรงกระชุ้นพุ่งเข้าชนร่างของนายธนวัฒน์ ผู้ตายที่ยืนซ่อมหม้อลมเบรกรถจนศีรษะไปกระแทกกับกันชนหน้ารถจนกะโหลกแตกเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวคนขับรถคันก่อเหตุไปสอบสวนปากคำหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณี
.