เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์ โควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ได้ชี้แจงในที่ประชุมถึงคลัสเตอร์ที่พบในพื้นที่กทม.และคลัสเตอร์ใหม่ โดยได้มีการพูดคุยกันว่า ถึงแม้สถานที่จะเป็นการเฉพาะ เชื้อโรคไม่ได้อยู่ในสถานที่ ไม่ได้ฝังตัวอยู่กับสถานที่ เชื้อโรคอยู่กับตัวบุคคล เพราะฉะนั้นถ้าตัวบุคคลย้ายจากสถานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ก็จะเป็นเหตุของการแพร่ระบาดของโรค แต่จุดที่เราบอกกันไว้ตรงนี้ ก็จะเป็นในลักษณะของการกล่าวถึงว่ามีความชุกชุมของคนที่อยู่ในกลุ่มตรงนั้น ที่ไปตรวจแล้วเจอ แต่ไม่ได้หมายความว่าที่ตรงนั้นจะไม่ปลอดภัย พออากาศถ่ายเทไป เชื้อโรคก็อาจจะหายไป หรือว่าถ้าเราเข้าไปดูแลเอาคนป่วยออกมา ที่ตรงนั้นก็ยังเป็นปกติแต่สำคัญก็คือ ให้รู้ว่าในละแวกที่ต่างๆ เหล่านั้น ในพื้นที่ตรงนั้นมีการแพร่ระบาดของโรคอยู่
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะสื่อสารคือ มีความสำคัญจำเป็นที่พี่น้องประชาชนอยู่ในเขตต่างๆ อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ต้องได้รับข้อมูลอย่างใกล้ชิด และในขณะเดียวกันใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ สำหรับคลัสเตอร์ที่มีการเฝ้าระวัง จำนวน 50 แห่ง ข้อมูลจากสำนักอนามัย กทม. สำหรับคลัสเตอร์ที่พบใหม่ 2 แห่งคือ เขตบางซื่อแคมป์ที่พักคนงาน JWS และเขตราชเทวี แคมป์ ยูนิคอร์น บ.ยูนิเทค คอนสตรัคชั้น
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศบค.ได้มอบหมายให้รองปลัดกรุงเทพฯ ดูแลกลุ่มเขตในพื้นที่กทม.ทั้ง 50 เขตโดยจะเป็นหัวหน้าทีมการควบคุมโรคผ่านผอ.สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ซึ่งจะมีการประชุมกันอย่างใกล้ชิดและรายงานความคืบหน้าการจัดการกับโรคกับศปก.ศบค.ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่เพื่อที่จะรับผิดชอบและดูแลลงไปในรายละเอียด